จากเหตุปะทะกันครั้งใหญ๋ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า การส่งเครื่องบินรบเข้าไปทำลายฐานยิงจรวดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในประเทศเลบานอนเป็นการชิงลงมือโจมตีก่อนเพื่อป้องกันตนเอง และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน
โดยผู้นำอิสราเอลย้ำว่า ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นเป็นการยกระดับมาตรการสร้างความมั่นคงให้กับพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีอย่างต่อเนื่องตลอด 10 เดือน ทำให้ชาวอิสราเอลกว่า 60,000 คนต้องอพยพ
เช่นเดียวกับ พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี ประธานคณะเสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ที่ยืนยันว่า กองทัพมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางภาคเหนือของประเทศ
ขณะที่ ฮัสซาน นาสราลลาห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ยืนยันว่า การส่งโดรนและจรวดโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในการล้างแค้นให้กับ ฟูอัด ชูเคอร์ ผู้บัญชาการคนสำคัญที่ถูกกองทัพอิสราเอลสังหารเมื่อเดือน ก.ค.
โดยนาสราลลาห์เปิดเผยว่า การโจมตีแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการยิงจรวดคัตยูชา (Katyusha) ประมาณ 320 ลูกไปยังสถานที่ทางทหาร 11 แห่งในอิสราเอลเพื่อดึงความสนใจจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ ก่อนส่งโดรนหลายสิบลำมุ่งหน้าสู่ภาคกลาง ทำให้เกิดความความโกลาหลครั้งใหญ่ในอิสราเอล
นาสราลลาห์ยังระบุว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ชะลอการการโจมตีครั้งใหญ่ต่ออิสราเอลจนถึงวันที่ 25 ส.ค. ก็เพื่อเปิดโอกาสให้การเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาเกิดขึ้น อีกทั้งเป็นกาสร้างความตึงเครียดภายในอิสราเอล และเพื่อรับประกันว่าการโจมตีนี้จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ยืนยันว่า แม้การล้างแค้นให้กับ นาย ชูเคอร์ ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว แต่การโจมตีอิสราเอลยังอาจเกิดขึ้นได้อีก
ปภ. เตือน 31 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
“ชะอม” ผักกลิ่นฉุนแต่อร่อย เปิดประโยชน์และโทษที่บางคนควรหลีกเลี่ยง!