สำนักข่าวรอยเตอส์รายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้บรรลุข้อตกลงส่งขีปนาวุธร่อนจากอากาศสู่พื้นร่วม "JASSM" (Joint Air-to-Surface Standoff Missiles) ที่ผลิตโดยบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ให้กับยูเครน ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศการตัดสินใจให้สาธารณชนรับทราบภายในฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือน ก.ย.-พ.ย. นี้
สำหรับขีปนาวุธ JASSM รุ่นมาตรฐานมีพิสัยทำการ 370 กิโลเมตร ขณะที่รุ่น ER (Extended Range) มีพิสัย 1,000 กิโลเมตร
JASSM สามารถหลบหลีกการตรวจจับของระบบเรดาร์ และติดตั้งได้กับเครื่องบินรบหลายรุ่นที่ผลิตในสหรัฐฯ รวมทั้ง F-16 ซึ่งยูเครนได้รับมอบจากชาติพันธมิตรตะวันตกเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
หากยูเครนได้รับมอบขีปนาวุธดังกล่าว จะเป็นการเสริมศักยภาพในการโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้มากขึ้น แต่สหรัฐฯ ยังไม่อนุญาต เนื่องจากกังวลว่าอาจเป็นการทำให้สงครามขยายวง
ส่วนความเคลื่อนไหวสถานการณ์สู้รบ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่ากองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูกโจมตี สถาบันสื่ิอสารของกองทัพและโรงพยาบาลอีกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน ในเมืองพอลตาวา (Poltava) ตอนกลางของประเทศ ทำให้อาคารของสถาบันฯ ถูกทำลายบางส่วน
โดย ประธานาธิบดี เซเลนสกีระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในการโจมตีครั้งนี้ 51 คน บาดเจ็บอีก 180 คน พร้อมทั้งร้องขอให้ชาติพันธมิตรตะวันตก ส่งระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศมาให้ยูเครนเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงขออนุญาตให้รัสเซียใช้อาวุธที่ได้รับมาจากชาติพันธมิตร โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ลึกมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่า รัสเซียโจมตีเข้ามาจากจุดใด แต่เมื่อช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา กองทัพยูเครนรายงานว่า มีการยิงขีปนาวุธ “อิสกันเดอร์” ออกจากภูมิภาคไครเมีย ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองพอลตาวาประมาณ 430 กิโลเมตร