เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนต่อ ไรอัน เวสลีย์ รูธ ชายวัย 58 ปีจากรัฐฮาวาย ซึ่งต้องสงสัยว่าพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนามกอล์ฟในรัฐฟลอริดา
ตามเอกสารของศาลระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัย พบข้อบ่งชี้ว่า รูธอาจซ่อนตัวอยู่นานเกือบ 12 ชั่วโมง โดยซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้พร้อมปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ SKS ที่บรรจุกระสุนอยู่ และกำลังเฝ้ารอช่วงเวลาที่ทรัมป์จะมาในระยะยิงจากจุดดักซุ่ม
ประกาศฉบับที่ 1 พายุ“ดีเปรสชัน” รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก
เปิดใจ 2 นักบินอวกาศนาซา หลังต้องติดอยู่ในอวกาศ 8 เดือน
วิเคราะห์ฟุตซอลโลก 2024 ทีมชาติไทย พบ คิวบา 17 ก.ย.67
ทั้งนี้ หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ บอกว่า รูธยังไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว เพราะถูกเจ้าหน้าที่อารักขาพบตัวก่อน และยังไม่ได้พบตัวทรัมป์ในครรลองสายตาเลย ทำให้ยังไม่ได้เล็งปืนไปที่ทรัมป์
มาร์เคนซี ลาปอยต์ อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตทางใต้ของรัฐฟลอริดา กล่าวว่า “สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กำลังดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์นี้ในฐานะความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี”
ตำรวจจับกุมรูธไว้ได้หลังจากเขาพยายามหลบหนีจากที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ที่สนามกอล์ฟได้เปิดฉากยิงผู้ต้องสงสัยหลังจากสังเกตเห็นปากกระบอกปืนลอดผ่านรั้วที่เรียงรายอยู่รอบสนามกอล์ฟมา
ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปในรถ SUV โดยทิ้งปืนไรเฟิลซึ่งติดกล้องส่องไว้ รวมถึงเป้สะพายหลัง 2 ใบและกล้อง GoPro หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนดังกล่าวก็ถูกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายติดอาวุธหนักสกัดไว้บนทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลข 95 ซึ่งเป็นทางหลวงที่พลุกพล่านในเขตใกล้เคียง และไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใดขณะถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ป้ายทะเบียนรถคันที่ใช้หลบหนีถูกแจ้งว่าโดนขโมยมาจากรถคันอื่นด้วย
เรียบเรียงจาก Al Jazeera