ประเทศเลบานอน ต้องเผชิญกับเหตุระทึกถึง 2 เหตุการณ์ภายในระยะเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น เริ่มจากเหตุการณ์แรกในช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ย. เวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุ "เพจเจอร์" ระเบิดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ กินระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บประมาณ 2,750 คน และบาดเจ็บสาหัสราว 200 คน โดยมีรายงานว่าผู้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ได้รับข้อความ 1 ข้อความ ก่อนที่เพจเจอร์จะระเบิดขึ้น
ต่อมาในวันที่ 18 ก.ย. เกิดเหตุการณ์ที่สองคือ วิทยุสื่อสารหรือ "วอล์กกี้ ทอล์กกี้" ระเบิดทั่วประเทศ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงเบรุต หุบเขาเบกา และทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์
ความตลกร้ายคือ หนึ่งในจุดที่เกิดเหตุวิทยุสื่อสารระเบิด คือบริเวณพิธีศพในกรุงเบรุต ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จัดให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดเพจเจอร์เมื่อวันที่ 17 ก.ย.
ตรวจสอบสิทธิกลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการ รับเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต
แม่เมย์แจ้งข่าวเศร้า สูญเสียน้องเอวา หลังยุติรักษามะเร็งระยะสุดท้าย
ระเบิดวอล์กกี้ทอล์กกี้ถล่มซ้ำเลบานอน เสียชีวิต 20 ราย
ความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากทั้งสองเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ชาวเลบานอนรู้สึกหวาดกลัวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปโดยปริยาย
สำนักข่าวบีบีซี ได้สะท้อนความหวาดกลัวอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของชาวเลบานอน ผ่านการลงพื้นที่เพื่อรายงานสถานการณ์ โดยมีผู้สนับสนุนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หลายรายเข้ามาหยุดการทำงานของบีบีซีหลายครั้ง พร้อมเรียกร้องให้ไม่ใช้โทรศัพท์หรือกล้องถ่ายรูป
ส่วนพนักงานฝ่ายผลิตของบีบีซีรายหนึ่งได้รับข้อความจากเพื่อน ระบุว่า ได้เปลี่ยนซิมการ์ดจากเดิมของเลบานอนเป็นหมายเลขต่างประเทศแล้ว เพราะกังวลว่าโทรศัพท์ของเธออาจระเบิดได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือที่แพร่กระจายไปบนโลกโซเชียลมากมาย หนึ่งในนั้นคือมีผู้ระบุว่า แม้แต่แผงโซลาร์เซลล์ก็สามารถระเบิดได้เช่นกัน
กีห์ดา หญิงชาวเลาบานอน ได้ในสัมภาษณ์กับบีบีซีเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า "ทุกคนกำลังตื่นตระหนก พวกเราเริ่มไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถอยู่ใกล้กับโน้ตบุ๊กหรือสมาร์ตโฟนของเราได้ไหม ตอนนี้อุปกรณ์ทุกอย่างดูมีความอันตรายไปหมด และไม่มีใครรู้ได้เลยว่าต้องทำอย่างไรต่อ"
เธอกล่าวต่อว่า "ฉันกลัวที่จะเกิดสงครามเป็นวงกว้างในเลบานอน ฉันกลัวแทนประชาชนของฉัน ฉันกลัวแทนเมืองและกลัวแทนประเทศของฉันจริง ๆ"
ด้าน ดร.เอเลียส วาร์รัก แพทย์ชาวเลบานอน กล่าวว่า "พวกเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ขณะนี้เรากำลังจ่ายค่าราคาของสงครามระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อิสราเอล อิหร่าน และอีกหลายประเทศ กลุ่มผู้บาดเจ็บและผู้สูญเสียอย่างน้อยกว่า 60% ที่ผมพบหลังเหตุเพจเจอร์ระเบิด ต้องสูญเสียดวงตาอย่างน้อยหนึ่งข้าง และมีอีกหลายคนสูญเสียนิ้วมือหรือทั้งมือเลยก็มี ซึ่งวันนั้นถือเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผม"
ที่มา: BBC