ท่ามกลางชาติพันธมิตรตะวันตกพยายามปรับปรุงการเรียนรู้อย่างเร่งด่วนจากการพัฒนาการและการใช้ระบบโดรนไร้คนขับที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามในยูเครน ทำให้นาโต ต้องลงมือฝึกซ้อมระบบต่อต้านโดรนครั้งใหญ่ที่ฐานทัพแห่งหนึ่งของเนเธอร์แลนด์
โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้มีประเทศที่เกี่ยวข้องมากกว่า 20 ประเทศ รวมถึงยูเครน ที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรก และยังมีอีกประมาณ 50 บริษัทที่เข้าร่วมการทดสอบระบบที่ล้ำสมัยเพื่อตรวจจับ และตอบโต้โดดรน และประเมินวิธีการทำงานร่วมกัน
ทั้งนี้การฝึกซ้อม11 วันจบลงด้วยการสาธิตกระบวนการก่อกวน และแฮ็กโดรน ซึ่งเป็นการแสดงบทบาทสำคัญในสงครามยูเครนอีกครั้ง
ขณะที่วันพุธที่ผ่านมา การโจมตีด้วยโดรนขนาดใหญ่ของยูเครน ส่งผลทำให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ที่คลังแสงอาวุธของรัสเซียในวันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีสลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวย้ำว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังเพิ่มการผลิตโดรนขึ้นเป็น 10 เท่า เป็นเกือบ 1.4 ล้านตัวในปีนี้
การใช้โดรนในสงครามที่มากขึ้น เพื่อทำลายเป้าหมายและสำรวจสนามรบ ส่งผลทำในนาโต เพิ่มการมุ่งเน้นไปที่ภัยคุกคามที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชาติพันธมิตร
แมตต์ โรเปอร์ (Matt Roper) หัวหน้าศูนย์ข่าวกรอง เฝ้าระวัง และลาดตระเวนร่วมหน่วยงานเทคโนโลยีของพันธมิตร ย้ำว่า นาโตได้ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามนี้เป็นอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญได้เตือน นาโต ถึงความจำเป็นที่ต้องตามให้ทันสงครามโดรนอย่างรวดเร็วที่สุด
จากรายงานของศูนย์วิเคราะห์นโยบายยุโรปประกาศเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วระบุว่า นาโตมีโดรนน้อยเกินไปสำหรับการต่อสู้ที่มีความเข้มข้นสูงของฝ่ายตรงข้าม
สำหรับสงครามโดรนเกิดขึ้นแพร่หลายมากขึ้นในยูเครน ผู้พัฒนาเทคโนโลยีจากกระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าวว่า แม้มันจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าเมื่อสู้กับโดรนสอดแนมระยะไกล แต่ย้ำว่า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย กล่าวว่าทีมงานได้พัฒนาโดรนกามิกาเซ่เพื่อทำลายโดรนเหล่านั้น ซึ่งเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าการยิงขีปนาวุธแบบที่ยูเครนเคยทำมาก่อนมาก