เมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา เกาหลีใต้เผชิญกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดที่สุดในรอบหลายปี เมื่อจู่ ๆ ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ได้ประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยอ้างว่า “มีกองกำลังต่อต้านรัฐบาลที่กำลังวางแผนก่อกบฏ”
วิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลา 157 นาที ก่อนที่สมาชิกรัฐสภาจะร่วมกันลงมติยกเลิกกฎอัยการศึก และในเวลาประมาณ 04.30 น. กฎอัยการศึกได้ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ ทำให้สถานการณ์สิ้นสุดลง
นี่คือรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงโซลเมื่อคืนนี้ (เวลาที่ปรากฏเป็นเวลาท้องถิ่นเกาหลีใต้ ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
รีบยืนยันตัวตน (e-KYC) โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใน 26 ธ.ค.67
10 อันดับมือถือจีนกล้องโหดประจำปี 2024 โดย DXOMARK Honor-Xiaomi เพียบ!
วิเคราะห์สาเหตุประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก!
3 ธ.ค. 2024
22.23 น.
ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินในการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้สาธารณชนได้รับทราบ
ในแถลงการณ์ของประธานาธิบดียุน มีการกล่าวหาพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาว่า เอนเอียงเข้าข้างเกาหลีเหนือ และมีความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐ
ประธานาธิบดียุนไม่ได้ระบุว่ามีการใช้มาตรการใดเป็นพิเศษ แต่อ้างถึงญัตติซึ่งยื่นโดยพรรคประชาธิปไตยที่พยายามจะถอดถอนอัยการระดับสูง 2 คน และปฏิเสธข้อเสนอร่างงบประมาณของรัฐบาล
ประธานาธิบดียุนยังประณามความเคลื่นไหวขอฝ่ายค้านว่าเป็น “พฤติกรรมต่อต้านรัฐโดยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนเพื่อปลุกปั่นการโค่นล้มรัฐบาลและอ้างอีกว่าพฤติกรรมเหล่านี้ ทำให้กิจการของรัฐเป็นอัมพาต ทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติให้กลายเป็นรังของอาชญากร และเปลี่ยนประเทศเป็นแหล่งยาเสพติด”
ผู้นำเกาหลีใต้อธิบายอีกว่า กฎอัยการศึกคือมาตรการจำเป็นเพื่อ “กำจัดกองกำลังต่อต้านรัฐฝ่ายสนับสนุนเกาหลีเหนือ รวมถึงคุ้มครองเสรีภาพ ความปลอดภัยของประชาชน และรับประกันความยั่งยืนของประเทศ“
22.40 น.
พรรคฝ่ายค้านหลักเรียกร้องให้มีการประชุมสภานิติบัญญัติฉุกเฉิน โดยหัวหน้าพรรคประชาธปไตย อี แจ-มยอง เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนมารวมตัวกันที่สมัชชาแห่งชาติเพื่อพิจารณาลงมติเพิกถอนกฎอัยการศึก ตามกระบวนการทางประชาธิปไตย
ประธานรัฐสภา วู วอน-ชิก ตอบรับคำเรียกร้อง และได้เรียกประชุมฉุกเฉินสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ขณะเดียวกัน หัวหน้าพรรครัฐบาล ฮัน ดง-ฮุน เดินทางไปที่รัฐสภา และเข้าร่วมการเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกเช่นกัน
23.00 น.
กฎอัยการศึกมีผลบังคับใช้
23:14 น.
ประธานสภาผู้แทนราษฎร วู วอน-ชิก เดินทางมาถึงที่ประชุม สมาชิกรัฐสภาคนอื่น ๆ ทยอยเดินทางมาถึง โดยบางคนฝ่าด่านตำรวจและทหารเข้ามาได้แม้จะมีการส่งกำลังทหารเข้าควบคุมพื้นที่อาคารรัฐสภาในกรุงโซล
ประมาณเที่ยงคืน
สมาชิกรัฐสภาที่เข้าร่วมประชุมมีทั้งหมด 190 จาก 300 คน ซึ่งเกิน 150 คนตามระเบียบ ถือว่าครบตามจำนวนองค์ประชุม ทำให้การประชุมยังสามารถจัดขึ้นได้
ห้องประชุมหลักของสภาผู้แทนราษฎรถูกปิดกั้นจากด้านใน เฮลิคอปเตอร์ทหารลงจอดที่บริเวณดังกล่าว ขณะที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษมาถึง
00:27 น.
กองกำลังทหารพยายามบุกเข้าไปในอาคารสภาผู้แทนราษฎร โดยปะทะกับสมาชิกรัฐสภา ผู้ช่วย และเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันขัดขวางเพื่อให้การประชุมไม่ถูกยกเลิก
00:38 น.
กองกำลังทหารบางส่วนบุกเข้าไปในอาคารหลักของสภาผู้แทนราษฎรได้
00:48 น.
การประชุมใหญ่เริ่มต้น
4 ธ.ค.
01:01 น.
มีการเสนอญัตติให้ยกเลิกกฎอัยการศึก
01:04 น.
ญัตติดังกล่าวได้รับการผ่านด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 190 ต่อ 0 เสียง ประธานสภาฯ จึงประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกทันที
01.10 น.
กองกำลังทหารเริ่มออกจากอาคารรัฐสภา
04.26 น.
ประธานาธิบดียุนกล่าวว่า เขาจะยกเลิกกฎอัยการศึกผ่านการแถลงทางโทรทัศน์ที่จะเผยแพร่ทั่วประเทศภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
เวลา 04.40 น.
ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการ หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน
เวลา 06.00 น.
ประชาชนชาวเกาหลีใต้ออกมาประท้วงประณามการกระทำของประธานาธิบดียุน
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านได้ส่งสัญญานพร้อมเปิดฉากกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดียุนออกจากตำแหน่งทันที โดย สส.พรรคฝ่ายค้าน 40 คน ระบุว่ารัฐสภาควรเริ่มต้นกระบวนการดังกล่าวโดยเร็ว พร้อมทั้งกล่าวหาผู้นำเกาหลีใต้ว่ามีพฤติกรรมทรยศประเทศจาการบริหารที่ผิดพลาด
ด้าน ฮวาง อุน-ฮา แกนนำ สส.พรรคฟื้นฟูเกาหลี (Rebuilding Korea Party) ระบุว่า การประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุนเข้าข่ายเป็นการก่อกบฏ เนื่องจากมีความพยายามระดมกำลังทหาร และเป็นที่ชัดเจนว่า ประธานาธิบดียุนไม่ควรอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป
สำหรับประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล เคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด โดยมีชื่อเสียงจากการดำเนินคดีกับ พัค กึน-ฮเย และอี เมียง-บัก สองอดีตผู้นำเกาหลีใต้ ในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
ประธานาธิบดียุนเข้าสู่อำนาจเมื่อปี 2022 ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชาชน (People Power Party) โดยเอาชนะคู่แข่งอย่าง อี แจ-มยอง จากพรรคประชาธิปไตย ด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว
แต่ การเลือกตั้ง สส.เมื่อเดือน เม.ย. ปรากฏว่า ฝ่ายค้านได้รับชนะอย่างถล่มทลาย ทำให้ตัวเขาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้
นอกจากนี้ ยุนยังพัวพันกับคดีอื้อฉาวหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของ คิม กอน-ฮี ผู้เป็นภรรยาที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต รวมถึงการรับของขวัญเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมและใช้อิทธิพลในทางมิชอบ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายค้านพยายามเปิดการสอบสวนพิเศษต่อสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
ความนิยมของยุนยังเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ จนเมื่อเดือน พ.ย. ยุนต้องออกมากล่าวขอโทษถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และระบุว่า กำลังจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อกำกับดูแลหน้าที่ของภรรยาตนเอง แต่ปฏิเสธที่จะสืบสวนเพิ่มเติมตามที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้อง
ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้ ฝ่ายค้านได้ปรับแผนลดงบประมาณที่รัฐบาลและพรรครัฐบาลเสนอ และในสัปดาห์เดียวกัน ฝ่ายค้านกำลังเคลื่อนไหวเพื่อถอดถอนสมาชิกคณะรัฐมนตรี โดยส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบบัญชีของรัฐบาล เนื่องจากล้มเหลวในการสอบสวนสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
เรียบเรียงจาก Korea Herald