เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่การล่มสลายของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. กองทัพอากาศได้โจมตีเป้าหมายในซีเรียไปแล้ว 480 ครั้ง และได้ทำลายขีดความสามารถด้านการทหารของกองทัพซีเรียไปแล้วประมาณ 70-80%
การเปิดเผยของกองทัพอิสราเอลมีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ยืนยันว่า ไม่มีความต้องการที่จะแทรกแซงกิจการภายในของซีเรีย
ปธน.เกาหลีใต้แถลงยืนยัน กฎอัยการศึกเป็นการปกป้องประเทศและประชาธิปไตย
แต่หากรัฐบาลชุดใหม่อนุญาตให้อิหร่านกลับมามีอิทธพลหรือส่งอาวุธให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รัฐบาลอิสราเอลก็พร้อมดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างหลักประกันด้านความมั่นคง เหมือนกับความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ที่กองทัพอากาศได้โจมตีเป้าหมายทางการทหารในซีเรียเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธที่เหลืออยู่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง
ขณะที่ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมากล่าวหาอิสราเอลและสหรัฐฯ ว่า ร่วมมือกันโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีอัสซาด รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านบางชาติที่มีบทบาทต่อเหตุการณ์ในซีเรียเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คาเมเนอียืนยันว่า ความเปลี่ยนแปลงในซีเรียจะไม่ส่งผลกระทบต่อเครือข่ายพันธมิตรติดอาวุธของอิหร่านในภูมิภาค ทั้งกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ฮูตีในเยเมน และฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ส่วนความเคลื่อนไหวในซีเรีย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-จอลานี ผู้นำกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรฝ่ายกบฎในการเข้ายึดกรุงดามัสกัส ให้คำมั่นว่า จะยอมรับความหลากหลายทางศาสนาและชุมชนในซีเรีย รวมทั้งประกาศจะลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานนักโทษและสังหารประชาชนในยุคอดีตรัฐบาลประธานาธิบดีอัสซาด
นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่เชื่อว่าเป็นแนวร่วมฝ่ายกบฎบุกเผาทำลายสุสานของ ฮาเฟซ อัล-อัสซาด อดีตประธานาธิบดีซีเรีย และเป็นบิดาของดดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในเมืองคาร์ดาฮา เมืองบ้านเกิดของตระกูลอัสซาด
ด้านหน่วยข่าวกรองตุรกี เผยแพร่ภาพที่ถ่ายจากโดรน แสดงให้เห็นการโจมตีสถานที่ทางการทหารใกล้กับท่าเรือที่เมืองกามิชลี ซึ่งแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของตุรกี โดยระบุว่า เหตุกาณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. หน่วยข่าวกรองตุรกีได้ทำลายรถบรรทุก 12 คันที่บรรทุกขีปนาวุธและอาวุธหนัก รถถัง 2 คัน และเครื่องกระสุนที่อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายโดย "หน่วยปกป้องชาวเคิร์ด" หรือ YPG กลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งรัฐบาลตุรกีขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้าย