เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เกิดเหตุรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองมักเดบวร์ก (Magdeburg) ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 68 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 15 คน
ไรเนอร์ ฮาเซลอฟฟ์ นายกรัฐมนตรีแคว้นแซกโซนี-อันฮัลต์ กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นผู้ใหญ่และเด็ก ส่วนตัวผู้ก่อเหตุสามารถควบคุมตัวไว้ได้แล้ว
ภาพจากโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นช่วงเวลาอันน่าสยดสยองที่รถยนต์สีดำพุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสซึ่งกำลังพลุกพล่าน
ในวิดีโอ ผู้คนจำนวนมากออกันอยู่ที่แผงขายของในตลาดเมื่อรถพุ่งเข้าชนพวกเขาโดยตรง บางคนวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก ในขณะที่บางคนกระโจนไปในแผงขายของเพื่อเอาชีวิตรอด
หลังเกิดเหตุ ศพและเศษซากความเสียหายกระจัดกระจายไปทั่วเลนแคบ ๆ
ตามคำกล่าวของฮาเซลอฟฟ์ ผู้ก่อเหตุเป็นแพทย์จากซาอุดีอาระเบียวัยประมาณ 50 ปีที่ทำงานอยู่ในแคว้นแซกโซนี-อันฮัลต์ อาศัยอยู่ในเยอรมนีตั้งแต่ปี 2006 โดยมีใบอนุญาตพำนักถาวร
ตำรวจเมืองมักเดบวร์กระบุว่า ขณะนี้ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวดในที่เกิดเหตุ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 100 นายและเจ้าหน้าที่กู้ภัย 50 นายไปประจำการร่วมด้วย
โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า ขอส่งกำลังใจให้กับเหยื่อของการโจมตีครั้งนี้ “เราอยู่เคียงข้างพวกเขาและอยู่เคียงข้างประชาชนเมืองมักเดบวร์ก ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ทุ่มเทในช่วงเวลาแห่งความวิตกกังวลนี้”
ตลาดคริสต์มาสแห่งนี้มีกำหนดเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. ถึง 29 ธ.ค. ตลาดแห่งนี้มีแผงขายของประมาณ 140 แผง รวมถึงลานสเก็ตน้ำแข็ง ชิงช้าสวรรค์ และสนามเด็กเล่น
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนในตลาดคริสต์มาสในเยอรมนี เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผู้ขอลี้ภัยที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอิสลามได้ขับรถพุ่งชนตลาดคริสต์มาสในเบอร์ลิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย
เรียบเรียงจาก CNN