เจ้าหน้าที่สำนักงานนายอำเภอเขตเทศมณฑลลอสแอนเจลิส เคาน์ตี้ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาลในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า ระหว่างเวลา 18 นาฬิกาจนถึงเวลา 06 นาฬิกาของช่วงเช้าอีกวัน ครอบคลุมย่านแปซิฟิก พาลิเซดส์ ย่านที่พักอาศัยของคนดังที่ถูกทำลายล้างจากไฟป่าที่ถูกเรียกว่า “ไฟป่าพาลิเซดส์” และพื้นที่ที่กำลังเผชิญกับไฟป่าที่มีชื่อเรียกว่า “ไฟป่าอีตัน” เพื่อป้องกันการก่อเหตุปล้นสะดมบ้านเรือนประชาชน
โดยตำรวจกว่า 200 นาย จะถูกส่งไปลาดตระเวนตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้รับรายงานการปล้นสะดมในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย และได้รับความเสียหายจากเหตุไฟป่า รวมถึง จะดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนกำหนดเคอร์ฟิว
ในการนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้กล่าวขอโทษสำหรับความผิดพลาดครั้งที่ 2 ในการส่งข้อความฉุกเฉินไปยังโทรศัพท์ของผู้อยู่อาศัย เพื่อแจ้งเตือนให้อพยพ พร้อมเสริมว่ากำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและขอร้องประชาชนอย่าปิดแจ้งเตือน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียเรียกร้องให้มีการสอบสวนอิสระเกี่ยวกับรายงานการขาดแคลนน้ำสำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ระดมกำลังกันเร่งทำงานแข่งกับเวลาในการควบคุมไฟป่ารุนแรง 5 จุด ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอาคารสิ่งปลูกสร้างกว่า 10,000 แห่ง และส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน
ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมไฟป่ารุนแรง 2 ใน 5 จุด อย่าง ไฟป่าพาลิเซดส์และไฟป่าอีตัน ได้ 8 เปอร์เซ็นต์และ 3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
ไฟป่าพาลิเซดส์และไฟป่าอีตันเผาผลาญพื้นที่รวมกันเกือบ 34,000 เอเคอร์หรือราว 85,890 ไร่
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ที่ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ เรียกเหตุไฟป่ารุนแรงในลอสแอนเจลิสว่าเป็นสมรภูมิสงคราม พร้อมเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่า น่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังนักอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า จะมีลมพัดแรงมากขึ้น เพิ่มความกังวลว่าอาจส่งผลให้ไฟป่าลุกลามขยายวงกว้างออกไปอีก นำไปสู่การประกาศเตือนภัยธงแดง ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาวะเพลิงไหม้ร้ายแรง