ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ในวันที่ 12 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลวอชิงตันพยายามกดดันให้เกิดการบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกัน และหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีไบเดน จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้
แถลงการณ์ของทำเนียบขาว ระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนและนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู หารือกันถึงความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการสู้รบในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมและปล่อยตัวประกันที่ถูกจับกุมทั้งหมด
ผู้นำสหรัฐฯ เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนของการหยุดยิงในฉนวนกาซาและนำตัวประกันกลับมาอย่างปลอดภัยด้วยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดขึ้นจากการยุติการสู้รบภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูรายงานความคืบหน้าของกระบวนการเจรจาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส ให้ประธานาธิบดีไบเดน ได้รับทราบ รวมถึง คำสั่งที่ผู้นำอิสราเอล มอบหมายไปกับคณะผู้แทนด้านความมั่นคงระดับสูงของรัฐบาลที่เดินทางไปเข้าร่วมการหารือบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันและหยุดยิง ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงโดฮาของกาตาร์ขณะนี้
นอกจากนี้ผู้นำทั้งสองยังได้หารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกลางที่เปลี่ยนแปลงไปหลังอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน ระบอบการปกครองของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดในซีเรีย ที่ล่มสลาย และอำนาจของอิหร่านในภูมิภาคที่อ่อนแอลง
“เจค ซัลลิแวน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเปิดเผยว่าอิสราเอลและฮามาสเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงเป็นอย่างมากแล้ว แต่ยังมีงานที่ต้องทำเพื่อผลักดันให้ข้อตกลงผ่านเข้าเส้นชัยพร้อมเสริมว่ายังมีโอกาสที่จะเกิดการบรรลุข้อตกลงก่อนไบเดนจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งและในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะไม่ทัน เนื่องจากกลุ่มฮามาสมีท่าทีไม่ยอมประนีประนอม
ขณะที่ “เจ.ดี. แวนซ์” ว่าที่รองประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ระบุว่า คาดว่าข้อตกลงปล่อยตัวประกันสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางจะประกาศออกมาในช่วงวันท้าย ๆ ของการบริหารรัฐบาลโดยไบเดน โดยอาจจะเกิดขึ้นในวันสุดท้ายหรือสองวันสุดท้าย
อิสราเอลเปิดฉากสงครามในฉนวนกาซาหลังจากนักรบกลุ่มฮามาบุกโจมตีข้ามพรมแดน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คน 1,200 คนและจับตัวประกันอีกกว่า 250 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในปาเลสไตน์ รายงานว่า นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น มีผู้เสียชีวิตกว่า 46,000 คนในฉนวนกาซา พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายล้าง ประชาชนส่วนใหญ่ต้องพลัดถิ่นท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรม
ทั้งนี้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายของเนทันยาฮูในการทำลายล้างกลุ่มฮามาส เคยให้คำมั่นว่าจะนำสันติภาพมาสู่ตะวันออกลาง โดยไม่ได้เปิดเผยว่าจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างไร