สงครามในฉนวนกาซามีความเคลื่อนไหวสำคัญเกิดขึ้น หลังลเมื่อวันที่ 15 ม.ค. อิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน ที่จะมีระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง ซึ่งได้รับการคาดหวังว่าจะนำไปสู่การยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานถึง 15 เดือน
ข้อตกลงดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์นที่ 19 ม.ค. โดยมีกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐฯ ที่เป็นชาติตัวกลางการเจรจา ทำหน้าที่ดูแลให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามเงื่อนไข
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ พันธมิตรหลักของอิสราเอล เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ อิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะหยุดยิงในเฟสที่ 1 เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ หรือ 42 วัน โดยอิสราเอลจะถอนทหารออกจากฉนวนกาซา และฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่จับไปเพื่อแลกกับชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลควบคุมตัวไว้
ประธานธิบดีไบเดนอธิบายว่า ในช่วงเฟสที่ 1 ของการหยุดยิง ชาวปาเลสไตน์จะสามารถกลับไปสู่บ้านเรือนของตนเอง และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซาจะเพิ่มมากขึ้น
โดยในระหว่างเฟสที่ 1 การเจรจาหยุดยิงเฟสที่ 2 จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การยุติสงครามอย่างถาวร แต่หากการเจรจาใช้เวลานานกว่า 6 สัปดาห์ การหยุดยิงเฟสที่ 2 จะขยายออกไป
ส่วนการหยุดยิงเฟสที่ 3 ตัวประกันกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่จะได้กลับไปหาครอบครัว และแผนการฟื้นฟูฉนวนกาซาจะเริ่มต้นขึ้น
ขณะที่นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล ทานี ยืนยันว่า ข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. นี้
นายกรัฐมนตรี อัล ทานี บอกอีกว่า กาตาร์จะร่วมมือกับอียิปต์และสหรัฐฯ เพื่อรับประกันว่าทุกฝ่ายจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ พร้อมแสดงความหวังว่าข้อตกลงนี้จะเป็นการปิดฉากสงครามในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวจะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะรับรองข้อตกลงดังกล่าว
โดยอิสราเอลอระบุว่า ยังมีข้อขัดแย้งอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และหวังว่าจะแก้ไขให้สำเร็จ
ขณะที่บรรยกาศในฉนวนกาซาหลังมีการประกาศยืนยันข้อตกลงหยุดยิง ปรากฎว่ามีประชาชนหลายพันคนออกมารวมตัวกันตามท้องถนนในช่วงค่ำเพื่อแสดงความยินดี
สำหรับสงครามในฉนวนกาซาเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปี 2023 หลังจากกลุ่มฮามาสส่งนักรบข้ามชายแดนกาซาเข้าสู่อิสราเอล และโจมตีเข่นฆ่าผู้คน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 1,210 คน และส่วนใหญ่ในนี้เป็นเพียงพลเรือน ฮามาสยังจับตัวประกันกลับไปด้วย 251 คน แต่ตอนนี้เชื่อว่ามีตัวประกันอยู่ในมือกลุ่มฮามาสอีก 94 คน
ปฏิบัติการโจมตีล้างแค้นของอิสราเอลที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ดำเนินมานานถึง 15 เดือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 46,707 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จนเกิดเป็นแรงกดดันจากนานาประเทศให้ทั้ง 2 ฝ่ายทำข้อตกลงหยุดยิง
ความขัดแย้งในกาซ่ายังขยายวงกว้างไปทั่วตะวันออกกลาง เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มทั้งในเลบานอน อิรักและเยเมน โจมตีอิสราเอลเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์ ทำให้อิสราเอล รวมถึงพันธมิตรหลักอย่างสหรัฐฯ ต้องดำเนินมาตรการตอบโต้