จากกรณีที่ “TikTok” แพลตฟอร์มโซเชียลผู้ให้บริการวิดีโอสั้นชื่อดัง ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ บีบให้ขายกิจการภายในวันที่ 19 มกราคมนี้ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ ซึ่งหาก TikTok ไม่ดำเนินการตามเส้นตายที่กำหนดไว้ อาจต้องเผชิญกับการปิดตัวลงในสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ล่าสุด 16 มกราคม รายงานอ้างอิงจากสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ รายงานว่า TikTok มีแผนปิดแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ ภายในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมนี้
รายงานให้รายละเอียดว่า TikTok เตรียมดำเนินการปิดแพลตฟอร์มในวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่ากฎหมายแบน TikTok ที่ออกโดยรัฐบาล โจ ไบเดน เมื่อเดือนเมษายนปี 2024 กำหนดไว้ คือ ห้ามดาวน์โหลดมาใช้งานจาก App Store และ Google Play Store โดยที่ผู้ใช้งานเดิมยังสามารถใช้งานได้ต่อไปในระยะหนึ่ง
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า แผนของ TikTok คือ เมื่อผู้ใช้เปิดแอปฯ จะมีป๊อปอัปเป็นข้อความแจ้งเตือนพร้อมลิงก์ที่นำไปยังเว็บไซต์ซึ่งอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการแบนครั้งนี้ รวมถึงจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับบัญชีของตนเองออกมาเก็บไว้ได้
โดยในเอกสารของทาง ByteDance ทื่ยื่นต่อศาลฯ สหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีการประเมินว่า หากการแบนมีผลราว 1 เดือน จะทำให้แพลตฟอร์มสูญเสียผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ไปราว 170 ล้านคน หรือกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สาเหตุของการตัดสินใจปิดตัวในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน อยากให้แพลตฟอร์ม TikTok อยู่ภายใต้บริษัทแม่อย่าง ByteDance ต่อไป
ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้เตรียมดำรงตำแหน่งหลังจากเริ่มใช้คำสั่งแบน TikTok 1 วัน กำลังพิจารณาออกคำสั่งไปยังฝ่ายบริหารเพื่อระงับการแบนดังกล่าวภายใน 60 - 90 วัน แต่ไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไร
โดย ไมเคิล วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ ได้กล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาว่า "ปฏิเสธไม่ได้ว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยม เราจะหาวิธีรักษามันไว้ แต่ก็ต้องปกป้องข้อมูลของผู้คนด้วย"
ที่มา: Reuters