ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ควรยุติสงครามในยูเครนทันที แต่หากยังไม่มีข้อตกลง สหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีในระดับสูง และคว่ำบาตรทุกสิ่งทุกอย่างที่รัสเซียขายให้สหรัฐฯ รวมถึงประเทศอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเปิดเผยว่า คณะทำงานของตนกำลังเจรจากับประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และจะหารือกับประธานาธิบดีปูติน "เร็ว ๆ นี้"
พร้อมทั้งเรียกร้องชาติยุโรปควรเพิ่มเงินช่วยเหลือให้มากกว่าสหรัฐฯ เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่า
ด้านประธานาธิบดีปูตินให้ความเห็นระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติว่า ความตั้งใจของทรัมป์ในการหาทางยุติสงครามด้วยการเจรจาเป็นเรื่องที่ดี แต่การพูดคุยจะต้องอยู่บนพื้นฐานที่ทุกฝ่ายให้ความเคารพกันและมีความเท่าเทียม
ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทำเนียบขาวเพื่อกำหนดเวลาการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ระหว่างผู้นำสองประเทศ หลังจากเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมามีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งกำลังรอทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งได้สั่งให้ทีมงานประสานกับฝ่ายรัสเซียเพื่อจัดการประชุมทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีปูตินหลังการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ส่วนอีกประเทศที่กำลังตกเป็นเป้าหมายของทรัมป์คือปานามา โดยเมื่อวันที่ 21 ม.ค. กระทรวงการต่างประเทศปานามาได้ยื่นหนังสือถึง อันโตนิโอ กูเตร์อเรส เลขาธิการสหประชาชาติ
โดยกระทรวงการต่างประเทศปานามาได้อ้างถึงกฎบัตรที่กำหนดให้สหประชาชาติต้องขัดขวางสมาชิกประเทศใดก็ตามจากการ “ข่มขู่ที่จะใช้มาตรการทางทหาร” เพื่อคุกคามอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน หรือเอกราชทางการเมืองของประเทศอื่น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทางการปานามาเกิดขึ้น หลังประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงกล่าวว่า จีนกำลังเข้ามาบริหารคลองปานามาจากการที่มีบริษัทจัดการท่าเรือหลายแห่งอยู่บนเส้นทาง พร้อมทั้งกล่าวว่า สหรัฐมอบคลองปานามาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของปานามา เมื่อปี 1999 “ไม่ได้มอบให้จีน” จึงถึงเวลาที่ต้อง “เอาคืนแล้ว”
ขณะที่ เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งมีความเคารพต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของปานามา รวมถึงคลองปานามาที่เป็นเส้นทางเดินเรือสากล
ปัจจุบัน 40% ของเรือบรรทุกสินค้าสหรัฐ ต้องเดินทางผ่านคลองปานามา ซึ่งทรัมป์แสดงความไม่พอใจมานานระยะหนึ่งแล้ว ว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านทาง “ที่ไม่เป็นธรรม” แต่รัฐบาลปานามาปฏิเสธ โดยยืนกรานว่า ปฏิบัติแบบเดียวกันกับทุกประเทศ