ศาลเลสเตอร์ ตัดสินปม ฮ.เจ้าสัววิชัย คิงเพาเวอร์ ตก เกิดจากตลับลูกปืน

ศาลเมืองเลสเตอร์มีคำตัดสินกรณีไต่สวนสาธารณะอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่สนามคิงเพาเวอร์ โดยคณะลูกขุนมีคำตัดสินกรณีโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ เลโอนาร์โอ AW169 ตกที่สนามคิงเพาเวอร์เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นเหตุให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้, เอริก สวอฟเฟอร์, อิสซาเบลลา เลโควิช, นุสรา สุขหน้าไม้ และกวีพร พรรณแพร เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดและไม่ควรจะเกิดขึ้น

รายการเที่ยงทันข่าว

พยานหลักฐานที่นำเสนอระหว่างการไต่สวนบ่งชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในกระบวนการทางวิศวกรรมขั้นพื้นฐานของบริษัท เลโอนาร์โด โดยมีสาเหตุมาจากตลับลูกปืนที่ใบพัดหางของเครื่องเฮลิคอปเตอร์แตก ซึ่งนำไปสู่การล้มเหลวของระบบใบพัดหาง ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมและเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ โดยชี้ว่า ความบกพร่องดังกล่าวมีมาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้แล้ว และไม่เคยได้รับการปรับปรุงแก้ไขแต่อย่างใด

ภายหลังการไต่สวนซึ่งใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ คณะลูกขุนรับฟังว่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ประสบอุบัติเหตุ ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องใหม่ และได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ได้รับรองมาตรฐาน และไม่พบความผิดพลาดใดๆ ของนักบินระหว่างทำการบิน

หลักฐานจากการไต่สวนบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงอุบัติเหตุที่รอวันเกิดขึ้นเท่านั้น และด้วยการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์ในลักษณะนี้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ในที่สุดอย่างแน่นอน

การตรวจสอบเพิ่มเติมจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ (AAIB) พบว่า มีตลับลูกปืนอีกสามชิ้นอยู่ในสภาพที่คล้ายกัน ซึ่งกำลังจะเสียหาย และหมดอายุการใช้งานซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดมาก

เหตุการณ์ความสูญเสียครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงข้อบกพร่องที่ร้ายแรงในกระบวนการออกแบบ การทดสอบ และการประเมินความเสี่ยงของบริษัทเลโอนาร์โด ผู้ผลิตจากประเทศอิตาลี ครอบครัวของคุณวิชัยยังคงแสวงหาความยุติธรรม และความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้อยู่

ด้านอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ บุตรชายของวิชัย กล่าวว่า “คุณพ่อของผมมีความเชื่อมั่นในเครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ โดยถือเป็นความรับผิดชอบของเลโอนาร์โดที่จะต้องทำให้มั่นใจว่าเครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มีความปลอดภัย แต่ในความเป็นจริง มันกลับไม่ปลอดภัย และกลายเป็นดั่งกับดักแห่งโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง”