อนามัยโลกเผย สหรัฐฯ ตัดงบ USAID กระทบ 50 ประเทศทั่วโลก

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งตัดงบองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ “ยูเอสเอด” (USAID) ซึ่งมอบความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขสถานการณ์สาธารณสุขทั่วโลกนั้น ส่งผลกระทบรุนแรงต่อหลายประเทศทั่วโลก

ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO บอกว่า โครงการรับมือกับโรคเอดส์ โปลิโอ ไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดนก ต้องหยุดชะงักลงในหลายพื้นที่ของโลก

Reuters/WHO

โดยเกเบรเยซุสเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์พิจารณากลับมาจัดสรรเงินช่วยเหลืออีกครั้งจนกว่าจะหาทางออกอื่นได้

เกเบรเยซุสกล่าวว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการบางอย่าง ซึ่งเรากังวลว่าจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสาธารณสุขทั่วโลก”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาชี้ให้เห็นถึงการระงับ PEPFAR ซึ่งเป็นแผนฉุกเฉินของประธานาธิบดีสำหรับการบรรเทาทุกข์โรคเอดส์ ซึ่งเขากล่าวว่าได้หยุดให้บริการการรักษา การทดสอบ และการป้องกันเอชไอวีใน 50 ประเทศแล้ว

“คลินิกต่าง ๆ ปิดตัวลง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขถูกพักงาน” เกเบรเยซุสกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกได้เตือนถึงการแพร่ระบาดของโรค ตลอดจนความล่าช้าในการพัฒนาวัคซีนและการรักษาใหม่ๆ อันเป็นผลจากการตัดงบประมาณ USAID ของทรัมป์

โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ดำเนินการปิดสำนักงาน USAID โดยให้เหตุผลว่า การใช้จ่ายของหน่วยงานนี้ “ไม่สมเหตุสมผล” และบอกว่า USAID นั้น “ไร้ความสามารถและทุจริต”

เมื่อไม่นานนี้ เขาได้ประกาศลดจำนวนพนักงานของหน่วยงานซึ่งมีอยู่ 10,000 คนลงอย่างมาก และระงับโครงการช่วยเหลือเกือบทั้งหมดทันที

หน่วยงานนี้ใช้งบประมาณราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.35 ล้านล้านบาท) หรือประมาณ 0.6% ของค่าใช้จ่ายประจำปีของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งหมด สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ไปกับโครงการด้านสุขภาพ

เงินส่วนใหญ่ของ USAID ถูกใช้ในเอเชีย แอฟริกาใต้สะฮารา และยุโรป รวมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีที่ได้รับมอบหมายจากทรัมป์ให้ลดขนาดของรัฐบาลกลาง เคยอ้างมาก่อนว่า USAID เป็น “องค์กรอาชญากร”

นอกจากการระงับ USAID แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ดำเนินการถอนสหรัฐฯ ออกจาก WHO ด้วย โดยสหรัฐฯ เป็นผู้ให้ทุนรายใหญ่ที่สุดของ WHO ซึ่งในปี 2023การสนับสนุนจากสหรัฐฯ คิดเป็นถึงเกือบ 1 ใน 5 ของงบประมาณของหน่วยงาน

ดร.เทดรอสกล่าวว่าการตัดสินใจของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ ในการรับมือกับภัยคุกคามต่อสุขภาพระดับโลก นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่าสหรัฐฯ ได้ลดการรายงานกรณีไข้หวัดนกในมนุษย์ลง

 

เรียบเรียงจาก BBC