เปิดคลิปวินาที “เดลตาแอร์ไลน์ส” พลิกคว่ำหงายท้องขณะลงจอดที่แคนาดา

จากกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ 4819 ซึ่งเดินทางจากสนามบินนานาชาติมินนิอาโปลิส-เซนต์พอลมายังสนามบินโทรอนโตเพียร์สันของแคนาดา แต่ประสบเหตุ “พลิกคว่ำ” ขณะลงจอดเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปวินาทีเกิดเหตุออกมา

โดยคลิปเผยให้เห็นว่า เครื่องบินได้ลื่นไถลไปตามรันเวย์แล้วพลิกคว่ำลง โดยปีกเครื่องบินข้างหนึ่งฉีกขาดขณะพลิกและส่วนหางเครื่องบินถูกไฟคลอก

X/@airmainengineer

จากคลิปยังได้ยินเสียงผู้ที่บันทึกเหตุการณ์เครื่องบินตกพูดว่า “โอ้ไม่ ไม่นะ ๆ” ขณะที่ลำตัวเครื่องบินพลิกคว่ำด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตกใจในเหตุที่เกิดแบบไม่คาดคิด

 

Clearist footage showing the crash moment of Delta - Endevoir Air CRJ-900 Flight DL4819 from Minneapolis (MSP) to Toronto (YYZ) with registration N932XJ.
We will share the reports as soon as available. pic.twitter.com/4XRAdJt3c0

— aircraftmaintenancengineer (@airmainengineer) February 18, 2025

 

นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือบันทึกช่วงเวลาที่ผู้โดยสารหนีกำลังหนีออกมาทางประตูฉุกเฉินและเผชิญกับอากาศหนาวเย็นจัด และผู้โดยสารบางคนยืนมึนงงอยู่กลางหิมะ บ้างก็สบถถึงความโกลาหลที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ผู้โดยสาร 21 คนต้องเข้าโรงพยาบาล รวมถึง 3 คนมีอาการสาหัส

โดยผู้ใหญ่ 2 คนอาการสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลฉุกเฉินที่อยู่ใกล้เคียงโดยเครื่องบิน และเด็ก 1 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในตัวเมืองโทรอนโตด้วยรถพยาบาล

ต่อมาสายการบินเดลตาแอร์ไลน์สโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า ผู้โดยสาร 19 คนได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลแล้ว

จากเสียงในระบบสื่อสารการจราจรทางอากาศ ระบุว่าเครื่องบิน “คว่ำและไหม้” ทันทีหลังจากเกิดการพลิกคว่ำ โดยผู้โดยสารออกจากเครื่องบินพร้อมกับกลุ่มควันดำหนาพวยพุ่งออกมาจากลำตัวเครื่องบินที่กำลังไหม้

เดโบราห์ ฟลินต์ ซีอีโอของ Greater Toronto Airports Authority กล่าวชื่นชมการตอบสนองของลูกเรือบนเครื่องบิน โดยบอกว่า “ลูกเรือบนเที่ยวบิน 4819 ของเดลตาได้นำผู้โดยสารไปสู่ที่ปลอดภัยอย่างกล้าหาญ โดยอพยพจากเครื่องบินที่พลิกคว่ำบนรันเวย์ขณะลงจอดท่ามกลางควันและไฟ ฉันขอขอบคุณฮีโร่ทุกคน”

สาเหตุของอุบัติเหตุยังไม่ชัดเจน แต่ ท็อดด์ เอตเคน หัวหน้าดับเพลิงของสนามบินกล่าวว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดา สิ่งที่เราบอกได้คือขณะเกิดเหตุรันเวย์แห้งและไม่มีลมพัดสวนทาง”

 

เรียบเรียงจาก The Guardian