เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเปิดเผยว่า พบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายในเหตุน้ำท่วม และทหารได้รับบาดเจ็บ 13 นาย หลังเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนอัลเฟรด ที่พัดถล่มหลายพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายหนัก
ศพดังกล่าวคาดว่าเป็นชายวัย 61 ปีรายหนึ่งที่หายตัวไป หลังจากรถยนต์ติดอยู่กลางน้ำท่วมในเมืองดอร์ริโก ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ก่อนหนีออกจากรถและปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงตัวชายคนดังกล่าวได้ จนทำให้เขาถูกน้ำพัดไป
พายุไซโคลนอัลเฟรดที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ได้พัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน
ทางการประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านและเฝ้าระวัง โดยระบุว่า ภัยคุกคามและอันตรายจากพายุลูกดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด
อิทธิพลของพายุยังส่งผลทำให้เกิดลมกระโชกแรง ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ถนนหนทางในพื้นที่ต่ำจมอยู่ใต้น้ำ บ้านเรือนประชาชนกว่า 300,000 หลังคาเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ไม่มีไฟฟ้าใช้