เมื่อ 12 มีนาคมที่ผ่านมา กองทัพของประเทศปากีสถานยืนยันว่า กำลังพลในสังกัดสามารถช่วยเหลือตัวประกันมากกว่า 300 คนออกมาจากรถไฟโดยสารที่ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาลูจิสถานบุกยึดเมื่อวันอังคารได้แล้ว
โดยทีมโฆษกกองทัพปากีาถานระบุว่า ระหว่างปฏิบัติการมีนักรบติดอาวุธของกองทัพปลดปล่อยบาลูจ หรือ BLA ถูกสังหาร 33 ศพ ขณะที่มีตัวประกันพลเรือน 21 คน และทหาร 4 นายบนรถไฟ ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกลุ่มนี้สังหาร ตั้งแต่ก่อนปฏิบัติการช่วยเหลือจะเริ่มขึ้น
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของกองทัพยังคงตรวจค้นพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อยืนยันว่าจะไม่มีภัยคุกคามใด ๆ เหลืออยู่ และค้นหาผู้อยู่บนรถไฟที่หนีเอาตัวรอดหลังเกิดเหตุ
รถไฟที่เกิดเหตุเป็นขบวนรถด่วน “จาฟเฟอร์” ซึ่งกำลังพาผู้โดยสารหลายร้อยคนเดินทางจากเมืองเกตตาไปยังเมืองเปศวาร์ ถูกนักรบติดอาวุธของกลุ่มบาลูจ โจมตีเมื่อวันอังคารที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างเกิดเหตุรถไฟขบวนนี่กำลังวิ่งอยู่ในเขตซีบี (Sibi) อันห่างไกลของแคว้นบาลูจิสถาน
โดยกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวเรียกร้องให้ทางการปากีสถานปล่อยตัวแนวร่วมที่ถูกจับตัวภายใน 48 ชั่วโมง หากไม่ทำตามจะสังหารตัวประกันที่อยู่บนรถไฟทั้งหมด
ด้านนายมูฮัมหมัด คาชิฟ ผู้ควบคุมรถไฟเมืองเกตตา เมืองหลวงของแคว้นาลูจิสถาน เปิดเผยว่า มีผู้โดยสาร 400 - 450 คนซื้อหรือจองตั๋วโดยสารรถไฟขบวนที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพนายหนึ่งยืนยันกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เจ้าหน้าที่ของกองทัพมากกว่า 100 คนโดยสารอยู่บนรถไฟขบวนนี้ด้วย
โดยหลังเกิดเหตุ ทางรัฐบาลปากีสถานได้สั่งระงับการเดินรถไฟที่มุ่งหน้าไปยังแคว้นบาลูจิสถาน
สำหรับกองทัพปลดปล่อยบาลูจ ถูกรัฐบาลปากีสถาน และหลายประเทศตะวันตก ขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้าย โดยกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏที่ต่อสู้เพื่อผลักดันการขยายอำนาจปกครองตนเอง หรือแยกแคว้นบาลูจิสถานเป็นอิสระจากปากีสถาน
แนวร่วมของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ให้เหตุผลว่า รัฐบาลปากีสถานฉกฉวยประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุและก๊าซธรรมชาติ แต่ละเลยไม่ดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน