เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักร ทรงปรากฏตัวที่หน้าต่างโรงพยาบาลเจเมลลี (Gemelli) ในกรุงโรม และทรงให้พรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรงเข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.
ไม่กี่นาทีต่อมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จออกจากโรงพยาบาล โดยทีมแพทย์ระบุว่า พระองค์จะเสด็จกลับไปพักฟื้นที่นครวาติกัน โดยต้องทรงพักฟื้นอีกอย่างน้อย 2 เดือน
ดร.เซอร์จิโอ อัลฟิเอรี หนึ่งในแพทย์ที่ถวายการรักษาสมเด็จพระสันตะปาปา กล่าวว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสทรงมีอาการวิกฤต 2 ครั้ง ซึ่งทำให้ “พระชนม์ชีพของพระองค์ตกอยู่ในอันตราย”
อัลฟิเอรีเสริมว่า ระหว่างการรักษา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไม่เคยใส่ท่อช่วยหายใจ และทรงรู้สึกพระองค์อยู่เสมอ โดยแม้พระอาการจะยังไม่หายดี แต่พระองค์ไม่ได้เป็นปอดบวมอีกต่อไปและจะกลับมาทรงงานโดยเร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. มีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันหน้าโรงพยาบาลเพื่อรอการปราฏของสมเด็จพระสันตะปาปา
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเพียงครั้งเดียวตั้งแต่ทรงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเป็นภาพถ่ายที่สำนักวาติกันเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยแสดงให้เห็นพระองค์กำลังสวดภาวนาในโบสถ์ของโรงพยาบาล
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงดำรงตำแหน่งผู้นำคริสตจักรโรมันคาธอลิกมาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว โดยทรงประสบปัญหาสุขภาพมาตั้งแต่พระเยาว์ รวมถึงปอดข้างหนึ่งถูกตัดออกเมื่อพระชนมายุได้ 21 พรรษา ทำให้พระองค์เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
เรียบเรียงจาก BBC