"ทรัมป์" แย้มอยากทำข้อตกลงกับจีน หลังขึ้นภาษีนำเข้า 145%

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงต่อท่ามกลางความเป็นกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขานรับปัจจัยจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังซบเซาหนัก

หลังจากที่ทำเนียบขาวชี้แจงว่าภาษีนำเข้าทั้งหมดที่รัฐบาลปักกิ่งต้องเผชิญอยู่ที่อัตรา 145 เปอร์เซ็นต์ รวมกับภาษีเฟนทานิล 20 เปอร์เซ็นต์ก่อนหน้านี้

ขณะที่ ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ของสหรัฐฯ แถลงว่า จะมีความยากลำบากและมีปัญหาในการเปลี่ยนผ่านอยู่เสมอ พร้อมเสริมว่า ยังหวังจะบรรลุข้อตกลงกับจีนได้ เพื่อหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ

คอนเทนต์แนะนำ
“สี จิ้นผิง” เตรียมเยือน เวียดนาม-กัมพูชา-มาเลเซีย กระชับสัมพันธ์ หลังสหรัฐฯเรียกเก็บภาษี 145%
เปิดรายชื่อ 9 กูรู “นายกฯอิ๊งค์”ตั้งแก้กำแพงภาษีสหรัฐฯ

 

กำแพงภาษี รายการทันโลก EXPRESS
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วม โดยระบุว่า ต้องการบรรลุข้อตกลงกับจีนเพื่อยุติสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น เพื่อหาทางออกที่ดีให้กับทั้งสองประเทศได้ในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ย้ำว่าจีนได้เปรียบและฉ้อโกงสหรัฐฯ มากกว่าใครมาอย่างยาวนาน

“เกิดอะไรขึ้นกับจีน? เราอยากจะทำข้อตกลงให้ได้ พวกเขาเอาเปรียบประเทศของเรามานานมาก พวกเขาขูดรีดเราเกินกว่าใคร ๆ ไม่เข้าใจเลยว่าคนก่อน ๆ ในตำแหน่งเดียวกับผม ทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร เราพูดถึงประธานาธิบดีหลายคน ไม่ใช่แค่ 2-3 คนนะ และสิ่งที่เราทำตอนนี้คือแค่จัดระเบียบใหม่เท่านั้นเอง เรากำลังตั้งโต๊ะเจรจาใหม่ ผมมั่นใจว่าเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างดีมาก ผมเคารพประธานาธิบดีสีมาก เขาเป็นเพื่อนของผมมานานแล้ว และผมคิดว่าในที่สุดเราจะสามารถตกลงกันได้เพื่อหาทางออกที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศได้ ผมตั้งตารอสิ่งนี้”

ถ้อยแถลงดังกล่าวของ "ทรัมป์" มีขึ้นพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทำเนียบขาวชี้แจงว่า ภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากจีนจะสูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์ โดยบวกเพิ่มกับภาษี อัตรา 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อดำเนินการลงโทษจีนที่ไม่สกัดกั้นสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเฟนทานิล ซึ่งเป็นยาระงับปวดประสิทธิภาพสูงในกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) ที่ไหลทะลักข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุด้วยว่า มักจะมีปัญหาในการเปลี่ยนผ่านและความยากลำบากอยู่เสมอ และเสริมว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาด นักลงทุนพอใจกับการดำเนินงานของสหรัฐฯ ที่พยายามทำให้โลกปฏิบัติอย่างยุติธรรม

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก ในการซื้อขายวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น โดยได้แรงหนุนบางส่วนจากการดีดตัวแรงของดัชนีที่ฟื้นตัวขึ้น ภายหลังการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าต่างตอบแทน เป็นเวลา 90 วัน กับหลายสิบประเทศแต่ยังให้คงภาษีศุลกากรทั่วไปจากทุกประเทศไว้ที่ 10 เปอร์เซ็นต์เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินสถานการณ์สงครามการค้าโลก และผลกระทบของการขึ้นภาษีนำเข้าที่รุนแรงยิ่งขึ้นกับจีน

ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 5 เปอร์เซ็นต์ในการซื้อขายช่วงเช้า สอดคล้องกับดัชนีคอสปิ (KOSPI) ของเกาหลีใต้ที่ลดลง 1.99 เปอร์เซ็นต์ สวนทางราคาทองคำที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังนักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

นักวิเคราะห์มองว่า แม้การตัดสินใจกระทันหันของ "ทรัมป์" จะช่วยบรรเทาความวิตกของตลาด ที่ได้รับผลกระทบและผู้นำโลกที่เป็นกังวลได้ชั่วคราว แต่แนวทางที่พลิกผันไปมาของทรัมป์ ยังคงส่งผลทำให้บริษัทต่างๆ ไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และต้องดิ้นรนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า

ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งยังไม่แสดงทีท่าว่าจะยอมแพ้และสู้ยิบตา ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 84 เปอร์เซ็นต์ และประกาศจะลดการนำเข้าภาพยนตร์ที่ผลิตในสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อพิพาทเรื่องภาษีศุลกากรทำให้ผู้ชมสนใจหนังฮอลลีวูดน้อยลง เดิม รัฐบาลปักกิ่งจำกัดการเข้าฉายของหนังอเมริกันในจีนไว้ที่เพียงปีละ 34 เรื่องอยู่แล้ว และฮอลลีวูดก็มีความสำคัญน้อยลง เนื่องจากภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศจีนได้รับความนิยมมากขึ้น

ส่วนสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า จะระงับมาตรการตอบโต้ที่วางแผนจะบังคับใช้กับอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน เป็นเวลา 90 วันเช่นกัน

ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทำให้มีรายงานการกักตุนสินค้าหลายรายการ รวมถึง รายงานข่าวที่ระบุว่า “แอปเปิล” เช่าเครื่องบินขนส่งสินค้า เพื่อลำเลียงไอโฟน 600 ตันหรือราว 1.5 ล้านเครื่องจากอินเดียไปยังสหรัฐฯ เพื่อเอาชนะมาตรการภาษี และสะสมสต็อกไอโฟนรุ่นยอดนิยมไว้ในสหรัฐฯ ตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของบริษัท

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์เตือนว่า ราคาไอโฟนที่วางขายในสหรัฐฯ อาจพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากแอปเปิลต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีน ซึ่งศูนย์กลางการผลิตหลัก และจีนเป็นประเทศที่เผชิญกำแพงภาษีของสหรัฐฯ สูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ