ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีที่ขีปนาวุธลูกหนึ่งถูกยิงไปตกข้างถนน ใกล้กับลานจอดรถของท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน ซึ่งอยู่ชานกรุงเทล อาวีฟ เมืองสำคัญของอิสราเอล ก่อนจะเกิดกลุ่มควันดำหนาทึบลอยขึ้นมา
แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ลึก 10 เมตร แต่ขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงแต่อย่างใด
ไม่กี่นาทีก่อนที่ขีปนาวุธลูจะตก มีรายงานว่า สัญญาณไซเรนดังขึ้นทางตอนกลางของอิสราเอล รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ และภายในท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หลังจากสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ผู้โดยสารในสนามบินหลายคนต่างก็วิ่งไปยังห้องหลบภัย ขณะที่การสัญจรทางอากาศที่สนามบินตกหยุดชะงักนานหลายชั่วโมง ก่อนจะกลับมาเปิดทำการตามปกติ
เบื้องต้น มีรายงานผู้บาดเจ็บจากแรงระเบิดของขีปนาวุธลูกดังกล่าว 4 คน
ล่าสุด กลุ่มกบฏฮูตีในประเทศเยเมนออกมาประกาศเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยิงขีปนาวุธดังกล่าวแล้ว โดยโฆษกของฮูตีแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เน้นย้ำคำเตือนไปยังสายการบินต่างๆ ว่าสนามบินอิสราเอลไม่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางทางอากาศอีกต่อไป
ด้านนาย อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ออกแถลงการณ์ว่า ใครก็ตามที่โจมตีเรา เราจะโจมตีกลับให้หนักกว่า 7 เท่า ขณะที่กองทัพอากาศอิสราเอลประกาศจะสอบสวนความผิดพลาดในการยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าว
ส่วนนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู มีกำหนดจะพบกับคณะรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อหามาตรการตอบโต้
ล่าสุด เนทันยาฮูได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า อิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮูตีในเยเมนต่อสนามบินหลักของอิสราเอล และผู้บงการจากอิหร่านด้วย ในเวลาและสถานที่ที่เราเลือก
ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มกบฏฮูตีที่อิหร่านให้การหนุนหลัง กลับมายิงขีปนาวุธใส่อิสราเอลมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา แต่ส่วนใหญ่มักไม่รอดพ้นจากระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ล้ำสมัยของอิสราเอล
นอกจากนี้ กลุ่มฮูตียังก่อเหตุโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ซึ่งสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายของฮูตี โดยมีสหราชอาณาจักรให้การสนับสนุนด้วย