ทางการปากีสถานเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีฐานทัพหลายแห่งของอินเดีย รวมถึงคลังจัดเก็บขีปนาวุธในพื้นที่ภาคเหนือของอินเดีย
กองทัพอินเดียกล่าวภายหลังการโจมตีว่า ปากีสถานยังคงเพิ่มระดับความรุนแรงของความขัดแย้ง โดยการโจมตีด้วยโดรนและการใช้อาวุธอื่น ๆ ตามแนวชายแดนของอินเดีย พบมีพลเรือน 5 รายเสียชีวิตจากการโจมตีในภูมิภาคแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย
ปากีสถานกล่าวว่า การโจมตีไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พลเรือน และจะมุ่งเป้าไปที่สถานที่ที่เคยใช้ปฏิบัติการต่อต้านปากีสถานเท่านั้น
ปากีสถานยังกล่าวว่า ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตี อินเดียได้ยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศของปากีสถาน 3 แห่ง รวมถึงฐานทัพหนึ่งที่อยู่ใกล้กับกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของประเทศ แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดกั้นได้เกือบทั้งหมด
พลโท อาเหม็ด ชาริฟ ชอดรี โฆษกกองทัพปากีสถาน กล่าวว่า “อินเดียใช้เครื่องบินยิงขีปนาวุธจากอากาศสู่พื้น ... ฐานทัพ Nur Khan, ฐานทัพ Mureed และฐานทัพ Shorkot ตกเป็นเป้าหมาย”
ฐานทัพอากาศ 1 ใน 3 แห่งที่ปากีสถานระบุว่าเป็นเป้าหมายของอินเดียนั้นตั้งอยู่ในเมืองราวัลปินดี ซึ่งเป็นเมืองทหารรักษาการณ์ นอกกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวง ส่วนอีก 2 แห่งตั้งอยู่ในแคว้นปัญจาบ ทางตะวันออกของปากีสถาน ซึ่งอยู่ติดกับอินเดีย
โฆษกกองทัพปากีสถานกล่าวว่า มีขีปนาวุธเพียงไม่กี่ลูกเท่านั้นที่ฝ่าผ่านระบบป้องกันทางอากาศมาได้
นอกจากนี้ ยังเกิดกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรีปากีสถานได้เรียกประชุมหน่วยงานการบังคับบัญชาแห่งชาติ (National Command Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับสูงของเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการตัดสินใจเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน
แต่รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถาน คาวาจา อาซิฟ กล่าวว่า ยังไม่มีการประชุมหน่วยงานบังคับบัญชาแห่งชาติ “ยังไม่มีการประชุมของ NCA และไม่มีการกำหนดการประชุมดังกล่าว”
ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานนี้ลุกลามมาจากเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์เมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยอินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานอยู่เบื้องหลังกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุดังกล่าว
เรียบเรียงจาก Reuters