สุลต่านอิบราฮิม อิสกันดาร์ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย มีพระราชกระแสรับสั่งให้รัฐบาลมาเลเซียล้มเลิกแผนการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก (Black Hawk) เนื่องจากทรงแสดงความห่วงใยว่า เฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวมาอายุมากกว่า 30 ปีแล้ว พร้อมทรงมีพระราชดำรัสว่า พวกเราไม่ต้องการให้นักบินของเรา ขึ้นบินกับ "โลงศพบินได้" และอยากให้ทางรัฐบาลไปลองคิดดูเอง
พระราชดำรัสต่อการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กเป็นการแสดงจุดยืนของพระองค์ที่แข็งกร้าว ต่อต้านกับเหล่าอดีตนายพลที่กลายมา "เซลส์แมน" หรือ "พ่อค้าคนกลาง" ที่นั่งอยู่ในกระทรวงกลาโหมของมาเลเซีย พร้อมเตือนว่า พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถหลอกพระองค์ได้
พระองค์ยํ้าว่า หากพวกท่านหลงเชื่อพวกเซลส์แมนเหล่านั้น ก็จะได้ของที่ราคาแพงกว่าในทุกการจัดซื้อ ซึ่งงบประมาณที่นำมาใช้จะไม่เพียงพอแน่นอน
ด้าน พลเอก โมห์ด นิซาม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการกองทัพมาเลเซีย เปิดเผยเชิงตักเตือนกระทรวงกลาโหมในระหว่างพิธีสวนสนามเนื่องในวันครบรอบ 60 ปี กรมรบพิเศษมาเลเซีย ว่า ให้จดจำกรณีการซื้อเครื่องบินสกายฮอว์กในช่วงทศวรรษที่ 1980 เป็นตัวอย่าง
มาเลเซียซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจำนวน 88 ลำจากสหรัฐฯ โดยเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินเจ็ตในช่วงยุคสงครามเวียดนามที่นำมาปรับปรุงใหม่ แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาเป็นจำนวนมาก จากอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่สูง จนต้องทยอยปลดประจำการจนหมด
ในเดือน พ.ค. 2023 มาเลเซียได้ลงนามเช่าเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก 4 ลำ จากบริษัท Aerotree Defence and Services เป็นเวลา 5 ปี มูลค่ากว่า 187 ล้านริงกิต หรือราว 1,440 ล้านบาท แต่มีรายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหมได้ยกเลิกสัญญาดังกล่าวไปแล้วในเดือน พ.ย. 2024 หลังบริษัทแห่งนี้ไม่สามารถจัดหาและส่งมอบเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กให้กองทัพมาเลเซียได้ ทั้งที่มีการแก้ไขสัญญาแล้ว 3 ครั้ง
ด้าน คาเล็ด บิน นอร์ดิน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ออกมาแสดงความคิดเห็น ภายหลังสมเด็จพระราชาธิบดีมีพระราชดำริเช่นนี้ ว่า ทางกระทรวงกลาโหมจะสร้างความมั่นใจว่า การปรับปรุงอาวุธของกองทัพมาเลเซียให้ทันสมัย จะวางอยู่บนความต้องการของกองทัพเป็นหลัก พร้อมรับน้อมรับพระราชกระแสรับสั่งดังกล่าวด้วย