ประเทศญี่ปุ่นแม้จะได้ชื่อว่าเป็นแดนปลาดิบหรือแดนอาทิตย์อุทัย แต่หากใครที่เคยไปญี่ปุ่นจะเห็นว่า ความจริงแล้วที่นั่นคือ “ดินแดนตู้กดอัตโนมัติ” ต่างหาก โดยคาดว่ามีอยู่มากกว่า 5 ล้านตู้ทั่วประเทศ จำหน่ายตั้งแต่ของทั่วไปอย่างเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ไปจนถึงของแปลกอย่างเนื้อหมีและเนื้อวาฬ
แต่ล่าสุดที่ญี่ปุ่นมีตู้อัตโนมัติแปลกใหม่มาเพิ่ม นั่นคือ “ตู้ติดฟิล์มหน้าจอโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติ”
เนื่องจากสมาร์ตโฟนมีราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน รอยแตก และความเสียหายอื่น ๆ จึงมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการติดฟิล์มป้องกันหน้าจอ แต่หลาย ๆ ครั้ง ฟองอากาศที่ค้างอยู่และขอบที่บิดเบี้ยวของฟิล์มที่วางผิดตำแหน่งนั้น แย่ไม่ต่างจากรอยขีดข่วนและรอยถลอกบนหน้าจอที่ไม่มีฟิล์ม
ผู้ใช้สมาร์ตโฟนหลายคนประสบปัญหากับการติดอยู่ในลูปของการไปร้าน ซื้อฟิล์ม ติดฟิล์ม ลอกฟิล์มออกเพราะใส่ฟิล์มไม่แน่น พังอีก แล้วก็ทำแบบเดิมซ้ำ ๆ จนสุดท้ายก็ยอมแพ้และยอมติดฟิล์มที่ไม่ค่อยพอดี
“Film Labo” คือตู้จำหน่ายฟิล์มอัตโนมัติที่ไม่เพียงแต่ขายฟิล์มเท่านั้น แต่ยังติดฟิล์มลงบนโทรศัพท์ของคุณโดยอัตโนมัติอีกด้วย ปัจจุบันมีตู้ Film Labo อยู่ 28 เครื่องในญี่ปุ่น
สำหรับการใช้งานเริ่มต้นได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่ม “เริ่ม” (スタート) สีเขียวขนาดใหญ่บนหน้าจอ
Film Labo ใช้งานได้เฉพาะกับไอโฟน (iPhone) เท่านั้น และเนื่องจากขนาดหน้าจอและรูปแบบของแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป ผู้ใช้จะต้องเลือกรุ่นโทรศัพท์ที่ต้องการให้ติดฟิล์ม เช่น ไอโฟน 16
หลังจากนั้น จะมีตัวเลือกฟิล์ม 3 แบบ ได้แก่ ฟิล์มใส (高透明), ฟิล์มกันมอง (のぞき見防止) ซึ่งจะทำให้หน้าจอมองเห็นได้ยากขึ้นเมื่อมองจากด้านข้าง และฟิล์มกันแสงสะท้อน (反射防止)
เมื่อเลือกแล้ว จะเห็นหน้าจอยืนยัน ซึ่งสามารถกดเลือก “ใช่” (はい) เพื่อดำเนินการต่อ หรือ “ย้อนกลับ” (戻る) หากต้องการแก้ไขตัวเลือก
ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์หรือฟิล์มชนิดใด มีค่าใช้จ่ายคงที่ 2,980 เยน (เกือบ 650 บาท) โดย Film Labo ไม่รับเงินสด แต่มีตัวเลือกการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและแบบไม่ใช้เงินสดให้เลือกหลากหลาย
เมื่อเลือกและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็นำโทรศัพท์ใส่เข้าเครื่องและปล่อยให้เครื่องทำงาน โดยจะต้องนำโทรศัพท์ออกจากเคส และลอกฟิล์มป้องกันเก่าออก (ถ้ามี) ซึ่งด้านหน้าเครื่องจะมีช่องสำหรับรีไซเคิลฟิล์มเก่าให้ด้วย
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็วางโทรศัพท์ลงบนถาด จากนั้นปิดฝาเครื่องและเครื่องก็เริ่มทำงาน
ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 นาที โดยเครื่องจะทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์ของคุณก่อนติดฟิล์ม
เมื่อเรียบร้อย โทรศัพท์ที่ออกมาจะมีฟองอากาศที่หน้าจอ ซึ่งไม่ต้องตกใจไป เพราะเป็นฟองอากาศจากฟิล์มอีกชั้น ให้ลอกออก ก็จะเห็นโทรศัพท์ติดฟิล์มแบบไม่มีฟองอากาศแม้แต่น้อย ไม่มีรอยเลื่อนผิดตำแหน่งแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ไม่มีฝุ่นผง เหมือนกับได้หน้าจอโทรศัพท์ใหม่เอี่ยม
แม้ราคา 2,980 เยนหรือเกือบ 650 บาทนั้นไม่ถือว่าถูก แต่เมื่อพิจารณาว่า ไม่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงลองติดฟิล์มด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสี่ยงกับร้าน และได้ฟิล์มที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ หลายคนจึงมองว่า นี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเวลาและความเครียดของการติดฟิล์มปกติ
เรียบเรียงจาก SoraNews24