เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า จะดำเนินการถอดยศทางทหารของ แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์ หรือ “อดีตเจ้าชายแอนดรูว์” แห่งราชวงศ์อังกฤษ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงปลดพระอนุชาออกจากตำแหน่งและพระยศทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของประชาชนในอังกฤษต่อความสัมพันธ์ของแอนดรูว์กับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีนักการเงินผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศในสหรัฐฯ
จอห์น ฮีลลีย์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษกล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เราได้เห็นแอนดรูว์สละตำแหน่งกิตติมศักดิ์ทางทหารที่เคยมีมาแล้วหลายตำแหน่ง และเรากำลังดำเนินการถอดถอนตำแหน่งสุดท้ายของเขาคือ “พลเรือโท” ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
ฮีลลีย์กล่าวด้วยว่ารัฐบาลจะขอคำปรึกษาจากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า แอนดรูว์ควรถูกถอดเหรียญตราทางทหารด้วยหรือไม่
ก่อนหน้านี้ในปี 2022 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระมารดาของอดีตเจ้าชายแอนดรูว์ ได้ทรงถอดตำแหน่งทางทหารกิตติมศักดิ์หลายตำแหน่งของแอนดรูว์ หลังจากเขาถูกเวอร์จิเนีย จุฟเฟร ผู้กล่าวหาหลักเอปสตีนยื่นฟ้องทางแพ่ง
แอนดรูว์เคยได้รับการยกย่องจากบทบาทนักบินเฮลิคอปเตอร์กองทัพเรืออังกฤษ ระหว่างสงครามฟอล์กแลนด์เมื่อปี 1982 โดยแอนดรูว์ได้ปลดประจำการในปี 2001 หลังจากรับราชการนาน 22 ปี
แอนดรูว์ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศจุฟเฟร ซึ่งได้ระบุในหนังสือบันทึกความทรงจำที่ตีพิมพ์หลังการเสียชีวิตของเธอเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาว่า เธอตกเป็นเหยื่อค้าประเวณีและถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยแอนดรูว์ถึง 3 ครั้ง และ 2 ครั้งในนั้นเกิดขึ้นตอนที่เธออายุเพียง 17 ปี
แต่เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา สำนักพระราชวังบักกิงแฮมก็ออกแถลงการณ์ถอดพระยศเจ้าชายแอนดรูว์ เหลือเพียงชื่อ “แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์” พร้อมระบุว่ามาตรการเหล่านี้มีความจำเป็น แม้เจ้าชายแอนดรูว์ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดก็ตาม
แถลงการณ์ระบุด้วยวว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาทรงเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่งต่อเหยื่อและผู้รอดพ้นจากการล่วงละเมิดในทุกรูปแบบ
สื่ออังกฤษรายงานว่า แอนดรูว์ปฏิเสธที่จะอนุมัติแถลงการณ์ใด ๆ ที่กล่าวถึงเหยื่อ นับตั้งแต่การให้สัมภาษณ์อื้อฉาวในรายการของบีบีซีเมื่อปี 2019 ที่พระองค์ทรงปกป้องความสัมพันธ์กับเอปสตีน และไม่แสดงความเห็นใจต่อผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบ
สมเด็จพระราชินีคามิลลาทรงรณรงค์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อการล่วงละเมิดโดยตลอด ขณะที่ในช่วงหลังมีความกังวลเพิ่มขึ้นภายในราชวงศ์ว่ากรณีอื้อฉาวนี้อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ