จากกรณีที่สหรัฐฯ และประเทศไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานแร่สำคัญ หรือแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าประเทศไทยจะเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์นั้น
ล่าสุดทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่คำอธิบายเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าว โดยยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์หรืออธิปไตยของฝ่ายไทย
สหรัฐฯ ระบุว่า MOU นี้เป็นการส่งเสริมการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มภายในประเทศและอุตสาหกรรมการแปรรูปของไทย ตลอดจนเพิ่มความเข้มแข็งและมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทานแร่สำคัญและแร่หายากในสหรัฐฯ และไทย
“MOU นี้ไม่ได้มุ่งหมายให้มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายในประเทศ และไม่กระทบข้อตกลงที่มีอยู่แล้วระหว่างสหรัฐฯ และไทย อีกทั้งไม่มีผลต่ออำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติของตน แต่เป็นการต่อยอดและขยายความร่วมมือที่มีอยู่แล้วระหว่างเราทั้งสองประเทศ” สหรัฐฯ ระบุ
นอกจากนี้ ภายใต้ MOU นี้ สหรัฐฯ และไทยจะสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศระดับสากล เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคส่วนแร่สำคัญของไทย อีกทั้งช่วยไทยวิเคราะห์ขอบเขตของฐานทรัพยากรแร่สำคัญ ความร่วมมือระหว่างเราจะช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานแร่สำคัญที่มั่นคง ยืดหยุ่น และมีความรับผิดชอบ
สหรัฐฯ ระบุว่า “MOU นี้ต่อยอดจากพันธมิตรสหรัฐฯ-ไทย รวมถึงความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นทางการค้า การลงทุน และการพาณิชย์ระหว่างทั้งสองประเทศ ทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลโครงการที่เกี่ยวกับแร่สำคัญ ร่วมกันสำรวจโอกาสทางการค้าเพิ่มเติม และแสวงหาช่องทางความร่วมมือใหม่ ๆ”