ขณะเดียวกันจะหล่อหลอมให้พวกเขามีหัวใจที่มั่นคงและเปี่ยมด้วยคุณค่าได้อย่างไร ระบบการศึกษาไทยยังคงติดอยู่กับปัญหาเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นการเน้นท่องจำมากกว่าการวิเคราะห์ การขาดความเชื่อมโยงระหว่างความรู้ในห้องเรียนกับชีวิตจริง หรือการละเลยการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียน ผลที่ตามมาคือเยาวชนที่มีความรู้แต่ขาดทักษะชีวิต มีความสามารถแต่ขาดภูมิคุ้กันทางจิตใจ
ท่ามกลางปัญหาที่ยังไร้หนทางออก โรงเรียนปัญญาประทีปในจังหวัดนครราชสีมากลับเป็นจุดสว่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการศึกษาไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โรงเรียนแห่งนี้ได้รับการก่อตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ของพระอาจารย์ชยสาโร (พระพรหมพัชรญาณมุนี) ซึ่งมองเห็นความจำเป็นในการสร้างการศึกษาวิถีพุทธที่ผสานปัญญาตะวันออกกับความต้องการของโลกสมัยใหม่อย่างลงตัว ด้วยแนวคิดการศึกษาองค์รวมที่ใช้หลักวิถีธรรมชาติและกัลยาณมิตรเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครู ผู้ปกครอง และนักเรียน
อาจารย์วิเชษฐ์ โพธิวิสุทธิ์วาที ผู้อำนวยการโรงเรียนปัญญาประทีป กล่าวว่า "เราเชื่อว่าการศึกษาที่ดีต้องไม่แยกส่วนคนออกจากชีวิตจริง โรงเรียนมุ่งพัฒนาเด็กใน 3 เสาหลัก คือ วิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต วิชาการเพื่อสร้างรากฐานความรู้และทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล วิชาชีพเพื่อฝึกให้เด็กทำงานเป็น และวิชาชีวิตเพื่อให้เขารู้จักดูแลจิตใจของตนเองและสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างมีเมตตาและเข้าใจ" ปรัชญานี้สะท้อนถึงความเข้าใจว่าการศึกษาที่แท้จริงต้องสร้างทั้งคนเก่งและคนดีที่สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขและสร้างสรรค์สังคมได้
สิ่งที่ทำให้โรงเรียนปัญญาประทีปโดดเด่นคือ “การรักโดยไม่มีเงื่อนไข” หมายถึงการยอมรับและรักเด็กในตัวตนที่แท้จริง ไม่ว่าเขาจะเก่งหรือไม่เก่ง การให้โอกาสเด็กได้ทำดีอย่างมีความหมาย การชื่นชมความเพียรมากกว่าผลลัพธ์ การเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา และการเปิดพื้นที่ให้เด็กได้ล้มลุกคลุกคลานอย่างปลอดภัย สร้างสภาพแวดล้อมที่เด็กกล้าลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง และเน้นทักษะชีวิตและคุณธรรมที่เด็กสามารถนำไปใช้ในการดำรงชีวิตจริงได้ ความสัมพันธ์ระหว่างครูและนักเรียนจึงเป็นแบบพี่เลี้ยงและเพื่อนร่วมทางมากกว่าครูกับลูกศิษย์
นอกจากนี้ โรงเรียนปัญญาประทีปยังยึดหลักการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับทั้งการเรียน และการใช้ชีวิต คือ การออกแบบหลักสูตรที่ตั้งอยู่บนแนวคิด "2 นอก 2 ใน" ซึ่งเป็นการประยุกต์จากหลักภาวนา 4 และพรหมวิหาร 4 ในพุทธศาสนาอย่างสร้างสรรค์ "2 นอก" หมายถึงการฝึกฝนปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ทั้งการจัดการทรัพยากร การใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ส่วน "2 ใน" หมายถึงการพัฒนาภายใน คือ การควบคุมและพัฒนาจิตใจ และการเสริมสร้างปัญญาและความเข้าใจ
เบื้องหลังการเรียนรู้ทั้งหมดตั้งอยู่บนหลักพรหมวิหาร 4 ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งผสานให้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนในทุกกิจกรรม ครูในโรงเรียนวิถีพุทธแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงผู้ถ่ายทอดความรู้ แต่เป็นกัลยาณมิตรที่ใช้หัวใจในการสอน เป็นผู้อยู่เคียงข้างที่คอยสนับสนุนและมองเห็นศักยภาพที่แฝงอยู่ในตัวเด็กแต่ละคน ความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตรนี้ขยายไปถึงผู้ปกครองด้วย ทำให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก
แนวทางการศึกษาวิถีธรรมชาติของโรงเรียนปัญญาประทีปสอดคล้องกับแนวโน้มการศึกษาระดับโลกที่เรียกว่า "ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21" ซึ่งเน้นการพัฒนาทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการเรียนรู้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้แบบองค์รวมที่มองว่าการศึกษาต้องพัฒนาผู้เรียนทุกด้าน และเน้นความฉลาดทางอารมณ์ซึ่งงานวิจัยสมัยใหม่พบว่ามีความสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิตไม่แพ้ความฉลาดทางสติปัญญา
โรงเรียนปัญญาประทีปจึงเป็นต้นแบบของการศึกษาอนาคตที่ประเทศไทยต้องการ การผสานปัญญาตะวันออกกับความต้องการของโลกสมัยใหม่ การสร้างดุลยภาพระหว่างความรู้และคุณธรรม และการมองเด็กเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบในตัวของเขาเอง คือสิ่งที่การศึกษาไทยต้องมุ่งไปหากเราต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ที่ไม่เพียงแต่มีความรู้ความสามารถ แต่ยังมีหัวใจที่อบอุ่น จิตใจที่เข้มแข็ง และความพร้อมที่จะสร้างสรรค์สังคมที่ดีกว่า การลงทุนในการศึกษาแบบองค์รวมคือการลงทุนในอนาคตของชาติ และโรงเรียนปัญญาประทีปได้พิสูจน์แล้วว่าการศึกษาวิถีพุทธแบบนี้เป็นไปได้และสามารถเป็นจริงได้ในสังคมไทย
โครงการตามรอยพระราชา ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา จัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 โดยเป็นการเผยแพร่ศาสตร์ของพระราชา และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมด้วยคุณธรรม 5 ประการ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ 17 เป้าหมาย ภายในปี 2030 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณจารุกัญญ์ โทรศัพท์ 099 397 5333 FB : ตามรอยพระราชา-The King’s Journey LINE : The King’s Journey