นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค เปิดเผย ภาพรวมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 3 ราย และมีผู้ป่วยเพิ่ม 109 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 39 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 10 ราย กลุ่มสถานบันเทิง 8 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีสถานบันเทิงจากต่างจังหวัดรวมอยู่ด้วย และกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 21 ราย
องค์การอนามัยโลกแนะ 5 วิธีสร้างเสริมสุขภาพป้องกันติด “โควิด-19”
อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 28 มี.ค. 63
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 17 ราย คือ กลุ่มที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เป็นคนไทย 6 ราย กลับจาก อเมริกา อินเดีย ฝรั่งเศส เยอมัน ญี่ปุ่น ชาวต่างชาติ 2 คน ยูเครน โปรตุเกส กลุ่มทำงานในสถานที่แออัด ใกล้ชิดคนมาก เกี่ยวข้องต่างชาติ 7 คน อยู่ในอาชีพ นวด สปา ขายบริการ พนักงานต้อนรับโรงแรม เชฟ เจ้าของร้านเครื่องประดับ บุคคลากรทางการแพทย์ 2 ราย รวมมีแพทย์ป่วยโควิด-19แล้ว 11 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 53 ราย
สำหรับวันนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 รายเป็นเพศหญิง อายุ 55 ปี มีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวาน และมีผู้ป่วยอาการหนัก 17 ราย มีอาการปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในจำนวนนี้ 1 รายอยู่ในภาวะวิกฤต และมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้วรวม 100 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 1,139 ราย เสียชีวิต 6 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 1,245 ราย
ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ "ศบค." ว่า ทุกที่เราเห็นความร่วมมือกันของประชาชน แต่การวัดผลต้องดูที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต้องลดลง ซึ่งก็ถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร ประชาชนต้องช่วยกันมากกว่านี้ เพราะจากข้อมูลหากประชาชนให้ความร่วมมือร้อยละ 70 ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งขึ้น ถ้าให้ความร่วมมือร้อยละ 80 ตัวเลขจะค่อยๆลงมา แต่ถ้าประชาชนร่วมมือร้อยละ 90 ถึงจะลดลงมาอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน
อกจากนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สั่งการให้ กรมบัญชีกลาง สำนักงานอาหารและยา องค์การเภสัชกรรมของกระทรวงสาธารณสุข อำนวยความสะดวกอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ นำเข้ามาได้อย่างถูกต้อง โดยผลการประชุมมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีการผ่อนปรนระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานนี้ได้มีมติให้มีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุสำหรับป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคโควิด -19 ทุกวงเงิน เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน จึงยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวง ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีการสั่งซื้อหน้ากาก N 95 และชุด PPE ที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้ในการป้องกันการติดเชื้ออย่างละ 400,000ชุด ซึ่งของเหล่านี้ เมื่อสั่งซื้อแล้วจะมีการจัดส่งเข้ามาโดยเร็ว
