วันนี้ (14 ก.ค. 60) พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. ... ที่จะประกาศใช้แทน พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ฉบับปัจจุบัน ว่าล่าสุดหลังยื่นให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ที่ประชุมมีมติให้ทำประชาพิจารณ์เนื่องจากการปรับเปลี่ยน พ.ร.บ.ดังกล่าวกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนในเดือนสิงหาคมเป็นครั้งแรก โดยเปิดบริการใน 3 ช่องทาง ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของกองสลากฯ และเว็บไซต์กฎหมายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี ส่วนวิธีที่สองสามารถส่งข้อความเป็นลายลักษณ์อักษรมายังกองสลากฯได้โดยตรง และสามารถส่งผ่านหน่วยงานราชการใกล้บ้านได้อีกด้วย หลังจากนั้นสำนักงานสลากฯจะนำความคิดเห็นภาคประชาชนมาปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ และจะทำประชาพิจารณ์อีกครั้งในเดือนกันยายน ก่อนนำมาปรับปรุงรอบสอง และจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ก่อนจะส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา
สำหรับ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. ... ฉบับใหม่ มีการเพิ่มเติมมาตรา และแก้ไขปรับปรุงมาตราเดิมเพียงเล็กน้อย โดยจะแก้ไขการมอบเงินรางวัล จากเดิมที่จะจ่ายเงินรางวัลจำนวนร้อยละ 60 ของยอดขายสลากในทุกงวด จะแก้ไขให้สามารถสมทบเงินรางวัลได้ เมื่อมีผู้ถูกรางวัลจนครบร้อยละ 60 ของยอดขาย เพื่อเป็นการเปิดช่องให้สามารถนำเกมเสี่ยงโชคหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการปรับเปลี่ยนตามหลักสากล และอีกประเด็นที่ขัดเจนคือจะกำหนดอายุผู้ซื้อจากเดิมไม่ต่ำกว่า 18 ปี แก้ไขเป็นไม่ให้ต่ำกว่า 20 ปี
ส่วนการจัดการบริหารรายได้ของสำนักงานสลากฯยังคงเดิม โดยจะแบ่งเป็นการจ่ายเงินรางวัลร้อยละ 60 ของยอดขายสลากในแต่ละงวด และร้อยละ 20 ส่งคืนแผ่นดินเพื่อนำไปพัฒนาประเทศในส่วนต่างๆ และอีกร้อยละ 17 เป็นเงินค่าดำเนินงานของกองสลากฯ ส่วนเงินอีกร้อยละ3 จะเข้าสู่กองทุนสำนักงานสลากฯ
