สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า หลังจากที่ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ทหารระดับนายพลและผู้เชี่ยวชาญแล้ว เขาได้ตัดสินใจว่ารัฐบาลสหรัฐจะไม่ยอมรับหรืออนุญาตให้บุคคลข้ามเพศปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพ ไม่ว่าในตำแหน่งใดก็ตาม ทรัมป์ให้เหตุผลว่า กองทัพต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของชัยชนะ และไม่สามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์จำนวนมหาศาล และปัญหาการแบ่งแยกที่อาจเกิดขึ้นได้ ท่าทีของทรัมป์ถือเป็นการล้มนโยบายสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ต้องการทำลายกำแพงกีดกันทางเพศ ด้วยการอนุมัติให้กองทัพเริ่มรับบุคคลข้ามเพศเข้ามาเป็นทหารได้เมื่อปีที่แล้ว
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ (LGBT) โดยมีการชุมนุมประท้วงกันที่หน้าสำนักงานรับสมัครทหารในย่านไทม์สแควร์ ของนครนิวยอร์ก เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตที่ออกมาร่วมประณามคำสั่งนี้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มหัวอนุรักษ์นิยมบางส่วนที่ชื่นชมกับคำสั่งนี้ ด้านโฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับกองทัพ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า บุคคลข้ามเพศที่เข้ามาเป็นทหารเรียบร้อยแล้ว จะต้องถูกปลดประจำการหรือไม่
ทั้งนี้ คาดว่ากองทัพสหรัฐมีทหารที่เป็นบุคคลข้ามเพศประมาณ 2,500 ถึง 7,000 นาย จากจำนวนทหารที่ยังปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด 1 ล้าน 3 แสนนาย
