ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกมะนาวในจังหวัดกาญจนบุรี วอนรัฐบาลช่วยหาตลาดรับซื้อผลผลิต หลังมะนาวล้นตลาด ส่งผลราคาตกต่ำไม่คุ้มค่าจ้างแรงงานเก็บ ต้องตัดใจปล่อยร่วงทิ้งคาสวนจำนวนมาก โดยนายกำธร สร้อยพรรณนา อายุ 47 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมะนาว ในพื้นที่ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้ปลูกมะนาวเอาไว้จำนวน 15 ไร่ มีต้นมะนาวมากกว่า 3,000 ต้น ซึ่งสาเหตุที่ลูกมะนาวร่วงหล่นลงมาเต็มพื้นนี้ เนื่องมาจากในช่วงนี้ ราคามะนาวตกต่ำมาก ตนจึงไม่สามารถจ้างแรงงานให้เข้ามาเก็บมะนาวเพื่อนำไปขายได้ตามปกติ เพราะช่วงนี้มะนาวเกรดดีลูกใหญ่ที่คัดแล้ว ยังขายได้เพียงลูกละ 1 บาท ขณะที่มะนาวไซส์ปกติทั่วไป ก็ขายได้เพียงลูกละ 30 สตางค์เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากและเป็นราคาที่ตกต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคามะนาวตกต่ำ เนื่องจากหลายปีก่อน มะนาวช่วงหน้าแล้งเคยขาดแคลนและได้ราคาดี เกษตรกรที่เคยปลูกพืชผักและผลไม้ชนิดอื่น จึงหันมาปลูกมะนาวแทนกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อเริ่มปลูกพร้อมกัน ต้นมะนาวที่เริ่มปลูกจึงให้ผลผลิตออกมาพร้อมกันในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ มีฝนตกชุก ยิ่งทำให้มะนาวให้ผลผลิตดี จึงมีผลผลิตมะนาวออกมาสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากปัญหาผลผลิตมะนาวที่ออกมาล้นตลาดเกินความต้องการ เนื่องจากในปีนี้เกษตรกรมีการปลูกมะนาวเพิ่มขึ้น ประกอบกับช่วงการปลูกมีปริมาณฝนดีทำให้ผลผลิตออกมามากจึงส่งผลให้ราคามะนาวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดกำแพงเพชรที่มีพื้นที่ปลูกมะนาวกว่า 4,500 ไร่ ราคาลดลงต่ำเพียงลูกละ 15 ถึง 25 สตางค์เท่านั้น เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ได้ให้กรมการค้าภายในเข้าไปตรวจสอบปริมาณผลผลิตที่มีอยู่ และที่กำลังจะออกมาเพิ่มเติม เพื่อประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงแนวทางในการแก้ไขจะเร่งเชื่อมโยงตลาด เพื่อกระจายผลผลิตไปยังพื้นที่ต่างๆทั่งประเทศ เช่นเดียวกับโมเดลการเชื่อมโยงตลาดของผลผลิตลำใยที่สามารถดึงราคาผลผลิตให้สูงขึ้นได้
