รายละเอียดของตลาดทั้ง 5 แห่ง ที่อยู่รอบบ้าน น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ และครอบครัว มี 2 ตลาด ที่ขออนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์ คือ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และ ตลาดยิ่งนรา แต่ใบอนุญาตนี้แม้จะขายของได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าสามารถเปิดเป็นตลาดสดได้ ส่วนตลาดสวนหลวง มีเพียงใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และ อีก 2 ตลาด คือ ตลาด รุ่งวาณิชย์ และ ตลาดร่มเหลือง ไม่มีใบอนุญาต
ในคดีนี้มีเจ้าของ 5 ตลาด เป็นผู้ร้องสอดในสำนวนคดีนี้ด้วย ตามหลักกฎหมาย ผู้ร้องสอด สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลต่อไปได้ หากเจ้าของตลาด จะยื่นอุทธรณ์ โดยอ้างว่า มีการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์ กับ ทาง กทม. ถือว่าเป็นการก่อสร้างที่ถูกต้อง
ตามมุมมองของ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ระบุว่า เป็นสิทธิ์สามารถทำได้ โดยศาลอาจมีคำสั่งให้การบังคับคดีทุเลาลง หรือ คุ้มครองคำสั่งชั่วคราวไว้จนกว่าจะมีคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล หากเป็นไปตามนี้ หมายความว่า ตลาดจะยังไม่ถูกรื้อ
วันนี้ในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว น.ส.บุญศรี และ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ เปิดใจว่ารู้สึกดีใจที่ศาลมีคำสั่งเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ไม่เคยมั่นใจในการดำเนินคดีของหน่วยงานรัฐฯที่ล่าช้ามาหลายปี
ส่วน นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความฝ่ายป้าทุบรถ อธิบายสาเหตุที่ศาลปกครองมีคำสั่งเช่นนี้ เนื่องจากศาลวิเคราะห์จากผังที่ดิน เห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัย และไม่ได้มีการขออนุญาตแก้ผังโดยเจ้าของที่ จึงต้องยึดไปตามกฎหมายที่ดิน ส่วนกฎหมายอื่นที่เกิดขึ้นตามมา เช่น การจัดสร้างอาคารพาณิชย์ ถือเป็นโมฆะ
หลังจากนี้ น.ส.บุญศรี ขอให้ กทม. เร่งดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครอง แต่หาก กทม. ยังไม่ดำเนินการ และเดินหน้าจะยื่นอุทธรณ์ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม จะให้ทนายความเดินหน้าฟ้องร้อง กทม. ตามมาตรา 157 โทษฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป
