ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สอบปากคำนางสาวประกายแสง พวงจำปา อายุ 32 ปี ชาวบ้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวขอเรี่ยไรเงินบริจาค ช่วยเหลือเด็กและโค้ชที่ติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน โดยไม่ได้อนุญาตขอเรี่ยไรตามกฎหมาย โดยนางสาวประกายแสง ให้การว่า ได้ปรึกษากับเพื่อนที่จะเรี่ยไรเงิน เพื่อซื้อหมูและข้าวเหนียว มาทำให้ผู้ที่มาช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตได้รับประทาน มีผู้โอนเงินเข้าบัญชี 5 ราย รวมเงิน 1,300 บาท ไปซื้อของจนหมด และเงินก็ไม่พอด้วยจนต้องออกเงินเอง เจตนาช่วยเหลือไม่ทราบว่ากลายเป็นประเด็นถูกโจมตี ถูกสังคมออนไลน์ต่อว่า ยอมรับผิดที่ขอเรี่ยไรโดยไม่ได้ขออนุญาต และขอให้สังคมนำกรณีที่เกิดขึ้นไปเป็นตัวอย่างอย่างทำโดยไม่รู้กฎหมาย
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า กรณีนี้เป็นความผิดลหุโทษ แต่ต้องลงโทษตามกฎหมาย เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ เพราะเป็นเรื่องนี้ละเอียดอ่อน การเรี่ยไรต้องทำให้ถูกต้องขออนุญาตฝ่ายปกครองตามกฎหมาย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ทำการเปรียบเทียบปรับตามความผิดเรี่ยไรไม่ขออนุญาตจากเจ้าพนักงาน เป็นค่าปรับ 200 บาท
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ไปตรวจหาผู้ที่เคยรับสัมปทาน ทำป่าไม้ในพื้นที่ ถ้ำหลวง ในช่วงปี 2529-2530 ซึ่งรู้พื้นที่ เชี่ยวชาญพื้นที่ เพื่อหาข่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวมีช่องทาง โพรงลับ หรือไม่? นอกจากนี้ ได้สั่งการสภ.แม่สาย ให้ดำเนินการรับแจ้งความคนหาย เพื่อให้เกิดสิทธิตามกฎหมาย หลังตรวจสอบแล้วพบว่า ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ที่เด็กและโค้ชฟุตบอลสูญหาย จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการรับแจ้งความแต่อย่างใด โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตำหนิ สภ.แม่สาย และตำรวจท่องเที่ยว ที่ไม่แนะนำให้ญาติของทั้ง 13 ราย ดำเนินการลงบันทึกประจำวัน ให้ได้สิทธิตามกฎหมาย