อดีตผู้นำมาเลเซียขึ้นศาล “ข้อหาทุจริต-ใช้อำนาจมิชอบ”

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (7ก.ค.61) อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค วัย 64 ปี ถูกนำตัวมาขึ้นศาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อรับฟังข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตและยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากกองทุนพัฒนามาเลเซีย 1MDB ซึ่งตัวเขาเป็นผู้ก่อตั้งในปี 2011 เพื่อนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ

โดยศาลชั้นต้นตั้งข้อหาละเมิดต่อความรับผิดชอบ รวมทั้งสิ้น 3 กระทง ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ส่วนโทษโบยจะได้รับการยกเว้น เนื่องจากมีอายุเกิน 60 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบ 1 กระทง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐของมาเลเซีย บุกเข้าควบคุมตัว นายนาจิบ ราซัค จากบ้านพักในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังสถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ กรณีที่มีเงินจำนวน 42 ล้านริงกิต หรือประมาณ  350 ล้านบาท ของบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล (SRC International) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกองทุน 1MDB ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของเขา

นอกจากนี้ นายนาจิบ ยังถูกตรวจสอบเรื่องเงิน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2 หมื่น 2 พัน 600 ล้านบาท ที่ปรากฏอยู่ในบัญชีส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นเงินที่ยักยอกถ่ายโอนมาจากบริษัท 1MDB แต่นายนาจิบปฏิเสธมาตลอด โดยอ้างว่า เป็นของขวัญที่เจ้าชายจากซาอุดีอาระเบีย ให้เป็นของขวัญ

นอกจากเงินจำนวนมหาศาลนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นบ้านพักของนายนาจิบหลายแห่ง และพบทรัพย์สินมีค่า ทั้งนาฬิกาหรูและกระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่ากว่า 9,900 ล้านบาทอีกด้วย

ข่าวอื้อฉาวเรื่องการยักยอกเงิน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นายนาจิบและพรรคอัมโน พ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของมาเลเซีย