เมื่อวันที่ (24 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่ที่อำเภอสันทราย เพราะระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้สูญหายมากกว่า 100 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะเดียวกันประชาชนราว 6,600 คน กลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะที่พักถูกน้ำพัดหายไปทั้งหลัง เหตุเขื่อนแตกครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ หลังเขื่อนดินย่อยส่วน D ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เขื่อนย่อย ที่อยู่รอบๆ เขื่อนหลักเกิดรอยแตก เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านลิตร ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรวม 6 หมู่บ้านในเขตเมืองสนามไชยของแขวงอัตตะปือ อย่างรวดเร็ว ทำให้คนส่วนใหญ่หนีไม่ทัน
แต่สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าไม่ถึงขั้นวิกฤตหนัก เนื่องจากเขื่อนหลักคือ "เขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย” ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งหาทางปิดรอยแตกและซ่อมแซมกันอย่างเร่งรีบ
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยอมรับว่า ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนัก จึงต้องติดต่อไปยังส่วนกลาง ให้ส่งความช่วยเหลือเข้ามาโดยเร็ว ในขณะที่หน่วยงานกู้ภัยของไทย กำลังประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ลาว เพื่อขอเข้าไปให้ความช่วยเหลืออีกแรง
สำหรับเขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย แห่งนี้ เป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลลาวและบริษัทต่างประเทศอีก 6 บริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทไฟฟ้าราชบุรีโอลดิ้งของไทย ด้วยเงินลงทุน 1,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ และจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ราว 410 เมกกะวัตต์ และ 90 เปอร์เซ็นต์ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ จะส่งมาขายให้กับไทย ที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ ทางลาวจะเก็บไว้ใช้เอง โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2019
ด้านนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีของ สปป.ลาว ประกาศเลื่อนกำหนดการประชุมรัฐสภา ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมสั่งให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องคอยติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้รัฐบาลกลางให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาการก่อสร้างเขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย ถูกวิจารณ์ในทางลบ เนื่องจากจะขวางกระแสน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในแม่น้ำและพื้นที่ใกล้เคียง โดยสัตว์และพืชบางชนิดอาจถึงขั้นสูญพันธุ์ไปได้
อ่านข่าว : ย้อนรอยเหตุเขื่อนแตกครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
โดยเขื่อนเซเปี่ยน ตั้งอยู่ที่แขวงจำปาสัก ห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ 80 กิโลเมตร ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ใกล้กับชายแดนประเทศไทย เป็นเขื่อนหินถมมีทางระบายน้ำล้นเป็นคอนกรีตความสูง 48 เมตร ยาว 1,300 เมตร และมีความจุของอ่างเก็บน้ำประมาณ 31 ล้านลูกบาศก์เมตร โดย เขื่อนเซเปี่ยน เป็นหนึ่งโครงการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย ประกอบด้วย ฝายห้วยหมากจัน เขื่อนเซเปี่ยน และเขื่อนเซน้ำน้อย ของบริษัท ไฟฟ้า เซเปี่ยน-เซน้ำน้อย จำกัด (PNPC) ที่ลงทุนใน สปป.ลาว มีมูลค่า 1.02 พันล้านเหรียญสหรัฐ กำลังการผลิต 410 เมกกะวัตต์ การก่อสร้างเริ่มต้นในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2556 มีกำหนดเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปลายปีนี้ 2561 และเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์ในปีหน้า 2562 โดยนักพัฒนาคาดการณ์ว่าโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 1,860 จิกะวัตต์ ต่อชั่วโมง (1.86 ล้าน เมกกะวัตต์)
โดยเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2556 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับ บริษัท ไฟฟ้า เซเปี่ยน-เซน้ำน้อย โดย กฟผ. รับซื้อไฟฟ้าประมาณ 354 เมกะวัตต์ ที่จุดส่งมอบไฟฟ้าชายแดนไทย-ลาว คิดเป็นพลังงานไฟฟ้า 1,575 ล้านหน่วยต่อปี อายุสัญญา 27 ปี มีจุดเชื่อมโยงระบบส่ง 500 เควี ฝั่งลาวที่สถานีไฟฟ้าปากเซ และฝั่งไทยที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงอุบลราชธานี 3 โครงการฯ กำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้ กฟผ. ในปีหน้า 2562
สำหรับ บริษัท ไฟฟ้า เซเปี่ยน-เซน้ำน้อย จำกัด (PNPC) เป็น บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นในเดือน มีนาคม ปี 2555 ประกอบด้วย บริษัท ราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือหุ้น 25%, บริษัท SK Engineering and Construction (SK E & C) ถือหุ้น 24%, บริษัท Korea Western Power (KOWEPO) ถือหุ้น 25% และ บริษัท Lao Holding State Enterprise (LHSE) ถือหุ้น 26%
เครดิต hydroworld.com