วันนี้(30 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาจะไม่ส่งผลต่อระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนประชาชน แต่ปริมาณฝนที่ตกลงมาก็ส่งผลต่อการทำงานของเข้าหน้าที่ชุดกู้ภัยในการค้นหาผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต
โดยจากการลงพื้นที่ที่หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรกที่อยู่ติดกับท้ายเขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย คือหมู่บ้านหินลาดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำเซเปี่ยน ซึ่งมีทั้งต้นไม้ และสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งวัดที่มีกำแพงมั่นคง โดยชาวบ้านบอกว่าวัดแห่งนี้มีศาลา มีกำแพงที่มั่นคง แต่ก็ได้ถูกกระแสน้ำพัดพังลงมาเสียหายทั้งหมด ทุกอย่างระเนระนาด ที่นี่มีบ้านเรือนประชากรเกือบ 100 หลังคาเรือน ซึ่งทั้งหมดพังหายไปทั้งหมดไม่เหลือเค้าโครงเดิม เหลือเพียงบ้านหลังใหญ่ที่มีการก่อสร้างที่ค่อนข้างแน่นหนายังพอเหลือโครงสร้างอยู่ และยังพบว่าน้ำและโคลนยังได้พัดท่อนซุง และต้นไม้ต่างๆเข้ามายังตัวบ้านอีกด้วย ส่วนถนนภายในหมู่บ้าน พบว่ามีโคลนเข้ามาภายในพื้นที่ถนนสูง บางจุดระดับโคลนสูงถึงประมาณหน้าอก
ขณะที่หมู่บ้านท่าแสงจันทร์ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจาก 6 หมู่บ้าน ท้ายเขื่อน ที่นอกจากจะเป็นหมู่บ้านแรกๆที่อยู่ท้ายเขื่อนแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่แนวร่องน้ำจากแม่น้ำเซเปี่ยน สภาพความเสียหายที่เห็นความรุนแรง และความเร็วของน้ำ พัดเอาน้ำจำนวนมากเข้ามาที่หมู่บ้านแห่งนี้ แม้ขนาดบ้านที่มีความคงทนสร้างด้วยปูน และเสาที่มีความหนา รวมถึงกำแพงบ้านก็พังเสียหายทั้งหมด
โดยชาวบ้านที่พักอาศัยบริเวณนี้ให้ข้อมูลว่า จากชาวบ้านที่พักอาศัยประมาณ 30-40 หลังคาเรือน ปลูกติดกัน แต่กลับพบว่าพื้นที่บริเวณนี้เหลือเพียงพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆเหลืออยู่ ขณะที่พื้นที่บริเวณด้านบนที่อยู่สูง เหลือเค้าโครงอยู่ประมาณ 3-4 หลังเท่านั้น