จากกรณีรถเก๋งที่ไปติดตั้งชุดแต่งกันชนท้ายปิดท่อไอเสีย จนอาจเป็นสาเหตุทำให้ก๊าซเสียเข้าไปในห้องโดยสาร ทำให้คนในรถมีอาการตัวเกร็งน้ำลายฟูมปากหมดสติภายในรถบนทางด่วนบูรพาวิถี อาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ช่างร้านประดับยนต์ ระบุว่า การติดตั้งลักษณะดังกล่าว ในวงการประดับยนต์ ถือว่า ติดตั้งไม่สมบูรณ์หรือผิดวิธี
โดยช่างได้ตั้งข้อสังเกตว่า จากชุดแต่งกันชนท้าย หรือสเกิร์ต จะเห็นว่าท่อไอเสียยื่นพ้นออกมาจากสเกิร์ต ไม่มีอะไรไปปิดกั้นเพื่อไม่ให้ก๊าซ “ ซีโอ ” หรือคาร์บอนมอนอกไซด์ หมุนเวียนกลับเข้าไปภายในห้องโดยสาร
นายจิระพงษ์ พรหมทอง เจ้าของร้านประดับยนต์ AB CAR SHOP ย่านลาดกระบัง ระบุว่า การติดตั้งชุดสเกิร์ต หากใช้ท่อไอเสียเดิมจากโรงงาน จะต้องต่อปลายท่อให้พ้นออกมา หรือทำช่องเว้าสำหรับให้ท่อไอเสียระบายก๊าซเสียออกมาจากปลายท่อได้
หากย้อนไปดูรถคันที่เกิดเหตุ คนในรถมีอาการตัวเกร็งน้ำลายฟูมปากหมดสติภายในรถบนทางด่วนบูรพาวิถี จะเห็นว่า ท่อไอเสียไม่ได้ถูกต่อยื่นออกมานอก สเกิร์ต ทำให้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซค์ไม่สามารถระบายออกมาได้ จึงหมุนเวียนเข้าไปในห้องโดยสาร เป็นอันตรายต่อคนที่อยู่ในรถ
จิระพงษ์ ระบุต่อว่า ช่างที่ติดตั้งจะต้องเป็นผู้แนะนำเจ้าของรถให้ต่อปลายท่อหรือทำช่องเว้าสำหรับปลายท่อไอเสีย เพราะรถเก๋งทุกคันจะมีช่องลมอยู่ด้านข้างเพื่อให้ปิดกระโปรงท้ายรถได้ง่าย หากไม่ต่อปลายท่อให้พ้นออกมา จะทำให้ก๊าซเสียเข้าในช่องนี้และเข้าไปในห้องโดยสาร
ข้อสันนิษฐานของช่างประดับยนต์ มองว่าร้านที่ติดตั้งกันชนท้ายอาจแนะนำเจ้าของรถแล้ว แต่อาจเสียดายรูปทรงของชุดแต่ง เพราะจะต้องเจาะช่องสำหรับท่อไอเสียให้ยื่นออกมาพ้น สเกิร์ต ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ที่ยังไม่ได้ทำตามคำแนะนำของร้านที่ติดตั้ง นอกจากนี้ช่างร้านประดับยนต์ ยังแนะนำว่าสิ่งที่สามารถทำให้ก๊าซเสียเข้าไปในตัวรถได้เช่นกัน คือลูกยางฝากระโปรงท้าย หากเสื่อมสภาพการใช้งานก็จะทำให้ก๊าซเสียจากท่อเข้าไปในห้องโดยสารได้เช่นกันแต่จะเกิดขึ้นกับรถที่มีอายุการใช้งานเป็นเวลานาน หรือขาดการดูแล
