จากกรณีมี 11 คำร้อง ของ 2 บริษัทต่างประเทศ ที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรกัญชา ทำให้เกิดข้อกังวลว่า สนช.ว่าอาจเป็นปัญหาในการศึกษาวิจัย หากกัญชาได้รับการปลดล็อกให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ โดยนายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เตรียมบรรจุวาระเข้าพิจารณาในวันศุกร์ ที่ 16 พฤศจิกายนนี้ หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างประกอบร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ. โดยให้แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ตราเป็น พ.ร.บ.ฉบับใหม่ซึ่งมีรายละเอียดครอบคลุมถึงการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และศึกษาวิจัยนั้น แต่ต้องเลื่อนการพิจารณายกร่างกฎหมายยาเสพติด ออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อรอกรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้แจงเรื่องสิทธิบัตร ที่ไปรับคำขอจดสิทธิบัตรที่มีสารประกอบลักษณะของกัญชา ทั้งหมด 11 คำขอ ของ 2 บริษัทต่างชาติ ซึ่งสมาชิก สนช.เห็นว่าเป็นประเด็นที่น่ากังวล หากร่างแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่าน บริษัทต่างชาติที่ยื่นคำขอจดสิทธิบัติรอไว้แล้วจะได้ประโยชน์ทันที และจะส่งผลต่อการศึกษาวิจัยของไทย
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดสั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะกรรมการสอบคำร้องขอจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับกัญชาทั้งหมด ซึ่งยื่นเข้ามาตั้งแต่ปี 2553 โดยต้องแยกประเด็นระหว่างคำร้องขอจดสิทธิบัตรกัญชาที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ กับสารที่คิดค้นขึ้นใหม่โดยมีกัญชาเป็นองค์ประกอบ ซึ่งสารสกัดจากธรรมชาติไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่สารที่คิดค้นขึ้นใหม่โดยมีกัญชาเป็นองค์ประกอบ
แม้จะได้รับสิทธิบัตรคุ้มครองก็นำมาใช้ในประเทศไทยไม่ได้ เพราะกฎหมายยังไม่ปลดล็อกให้ใช้กัญชาได้อย่างถูกต้อง แต่หากปลดล็อกกัญชาได้แล้ว นักวิจัยไทยก็สามารถใช้สารสกัดจากกัญชาไปคิดค้นต่อยอดเป็นสูตรใหม่ได้ แต่ก็จะไม่สามารถนำสูตรเดิมที่ได้รับสิทธิบัตรแล้วไปใช้ได้ เพราะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแล้ว โดยการตรวจสอบจะรู้ผลภายในสัปดาห์หน้า และขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญาสามารถยกเลิกคำร้องได้เลยหรือไม่