ผู้ปกครอง-นร.ทดสอบระบบเรียนออนไลน์วันแรก
สพฐ. วางแนวทางลดการบ้านทั่วประเทศ สอบเขียนบรรยาย
แม้โรงเรียนจะมีคำสั่งปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม วันนี้ครบ 15 วัน หรือครึ่งเดือนแล้ว แต่ น้องโบ้ หรือ ดช.โชคชัย หนูทอง นักเรียนชั้น ม. 1 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง เพิ่้งได้กลับมาเรียนออนไลน์เป็นวันที่ 2 โดยน้องโบ้ มีเพียงโทรศัพท์มือถือ ในการเรียนออนไลน์ ประกอบกับการเปิดหนังสือเรียนประกอบเท่านั้น น้องโบ้บอกว่า การเรียนออนไลน์ของที่โรงเรียน คุณครูจะสอนผ่านการไลฟ์สดในกลุ่มที่ตั้งขึ้นในเฟซบุ๊ก แต่จนขณะนี้ พบปัญหาคือคุณครูยังไม่สามารถดึงนักเรียนเข้ากลุ่มแต่ละวิชาเรียนได้ครบทุกคน อย่างตนเองได้เข้ากลุ่มเพียงวิชาเดียวคือคณิตศาสตร์ นอกนั้นในรายวิชาอื่นยังเข้ากลุ่มไม่ได้ซึ่งได้สร้างความกังวล ซึ่งเพื่อนๆ ก็พบปัญหานี้เช่นกัน
เช่นเดียวกับคุณแม่ น.ส.ขวัญใจ เวชโช ระบุว่า เป็นห่วงมาก เพราะหลังลูกเรียนออนไลน์ครั้งแรกไป พบผลการเรียนของลูกตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้กังวลใจ โดยเฉพาะการเรียนการสอนครั้งนี้ที่ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์เท่านั้น ซึ่้งหลายวิชา ลูกก็ยังไม่ถูกดึงเข้ากลุ่ม ทั้งนี้มองว่า การไปโรงเรียนยังไงก็ดีกว่า เพราะสามารถตอบคำถามกันได้ตัวต่อตัว ไม่เข้าใจก็ถามกันได้ทันที นอกจากนี้ การเรียนออนไลน์ ยังทำให้ภาระค่าใช่จ่ายในบ้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าอินเทอร์เน็ต ที่ต้องเพิ่มความเร็ว เพื่อให้ดูเฟซบุ๊กไลฟ์อย่างไม่ติดขัด
ขณะที่อีกหนึ่งปัญหาของการเรียนออนไลน์ คือ ตอนนี้เด็กต้องหยุด 1-31 มกราคม ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะต้องหยุดเพิ่มหรือไม่ ความสำคัญคือ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นวันสอบกลางภาค ซึ่งหากยังมาโรงเรียนไม่ได้ ส่วนนี้จะเป็นปัญหาทันที
ทีมข่าว PPTV ได้โทรสัมภาษณ์พิเศษ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านวิดีโอคอลระบบ Zoom ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้วางแผนการสอบกลางภาคไว้แล้ว ตามระดับชั้น เพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน 3 รูปแบบ ได้แก่
ระดับอนุบาล ครูจะให้นักเรียนแสดงกิจกรรม เพื่อดูพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์ เช่น เล่านิทาน โดยจะให้ผู้ปกครองช่วยถ่ายวิดีโอผ่านทางไลน์ แล้วส่งให้ครูประเมินผล
ระดับประถมศึกษา : จะมีการสอบข้อเขียน สอบอ่าน เพื่อดูพัฒนาการ โดยจะให้ผู้ปกครองช่วยถ่ายวิดีโอผ่านทางไลน์ แล้วส่งให้ครูประเมินผล เช่นเดียวกัน
ระดับมัธยมศึกษา : ครูจะเน้นสอบออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากเด็กโตมากพอที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง พร้อมกับส่งชิ้นงานให้ครูตามที่รับมอบหมาย ตรงนี้ ท่านเลขาฯ กพฐ. ระบุว่า สิ่งที่หลายคนกังวลว่า เด็กๆ จะหาข้อมูล หรือ คำตอบระหว่างสอบนั้น ส่วนตัวเชื่อว่า เด็กไทยทุกคนมีความซื่อสัตย์ และทุกคนก็ย่อมต้องการรู้ศักยภาพของตัวเอง ตลอดที่เรียนมา
อย่างไรก็ตาม แนวทางเหล่านี้ที่ สพฐ. กำหนด ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และ ความพร้อมของแต่ละโรงเรียนแต่ละพื้นที่ด้วย นอกจากนี้แล้ว สพฐ. ยังดูตัวอย่างในการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์โควิด ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม ที่มีการให้เด็กเลื่อนชั้นโดยไม่ต้องสอบ แต่ก็เชื่อว่า ประเทศไทย จะไม่ไปถึงจุดนั้น เพราะการแพร่ระบาด ยังไม่ได้มากมาย เท่าประเทศเหล่านั้น และเชื่อว่าประเทศไทย จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
สำหรับพื้นที่การเปิดปิดโรงเรียน ขณะนี้มีการปิดไป 44 จังหวัด กว่า 6 พันโรงเรียน ในพื้นที่สีส้ม และสีแดง ซึ่งทั้งหมดต้องเรียนออนไลน์ ส่วนพื้นที่สีเหลือง เด็กไปโรงเรียนได้ตามปกติ