สธ.เคาะยกระดับ 18 จว.เป็นพื้นที่สีแดง ปิด ผับ-บาร์-อาบอบนวด ชงศบค.ไฟเขียว
ประชาชน ทยอยกลับกรุง ถ.มิตรภาพ รถหนาแน่นชะลอตัวหลายจุด
บรรยากาศการเดินทางกลับเข้า กทม. ที่สถานีขนส่งหมอชิตช่วงเย็นวันนี้ ( 15 เม.ย.) เริ่มมีประชาชนหอบกระเป๋าเสื้อผ้า ข้าวสารอาหารแห้ง เดินทางกลับจากภูมิลำเนาเข้ามายังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ ขนส่งหมอชิต เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่ ครม. ประกาศเป็นวันหยุดราชการในช่วงสงกรานต์แต่บรรยากาศถือว่าเงียบเหงาเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่โควิด-19 ยังไม่แพร่ระบาด เนื่องจากคนส่วนหนึ่งเลือกที่จะไม่เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อลดความเสี่ยง
ส่วนประชาชนที่เดินทางกลับมาในวันนี้ หลายคนเปิดเผยว่า รู้สึกกังวลกับสถานการณ์โควิด-19 เช่นกัน แต่ระหว่างเดินทางก็ได้ดูแลตัวเองกันเป็นอย่างดี ทั้งการพกเจลล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอด ซึ่งบางบริษัทที่ให้เริ่มกลับเข้าทำงานวันพรุ่งนี้ ( 16 เม.ย.) ได้เพิ่มมาตรการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาวัดไข้พนักงานจนครบ 14 วัน นอกจากนี้ยังพบว่า ประชาชนบางส่วนยังได้มีการเตรียมข้าวสารตุนไว้ พร้อมปฏิบัติตามหากมีการประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง
ผู้เดินทางกลับเข้า กทม. ผ่านรถโดยสารสาธารณะในปีนี้มีจำนวนน้อยกว่าที่คาดไว้โดย นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า เดิมคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการในเที่ยวกลับ เฉลี่ยวันละ 90,000 คน แต่จากการรวบรวมข้อมูลของเมื่อวานนี้ คือวันที่ 14 เม.ย. มีการโดยสารเที่ยวกลับเข้ามา 2,958 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 32,059 คน ซึ่งคิดเป็นราว 1 ใน 3 ของจำนวนผู้โดยสารที่คาดการณ์ไว้
ส่วนเรื่องมาตรการควบคุมโรค สำหรับผู้โดยสารที่ที่เข้ามายังชานชาลาขาเข้า หากจะเดินทางต่อด้วยรถแท็กซี่หรือรถเมล์ จะต้องผ่านจุดคัดกรองโควิด-19 ซึ่งจะมีการวัดอุณหภูมิโดยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. ระบุว่า ได้กำชับให้นายสถานีเดินรถ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมฯ ดูแลเรื่องความมาตรการควบคุมโรคให้เข้มงวดขึ้น และขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง ซึ่งหากผู้โดยสารมีอาการของโรคโควิด-19 และมีประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ บขส. หรือบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ทันที
จากการสอบถามผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้า กทม. วันนี้ หลายคนมีวันหยุดต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ แต่สาเหตุที่เลือกกลับก่อน สละเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น ก็เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความแออัดในรถโดยสาร ที่เป็นความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19