ชาวบ้านระแวง! ชายแปลกหน้าป้วนเปี้ยน หวั่นลักพาตัวเด็ก เตือนให้ระวัง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ระแวง! ชาวบ้านเพชรบูรณ์ เห็นผิดสังเกต ชายแปลกหน้าขับรถป้วนเปี้ยนวิ่งตามเด็กๆ หวั่นเป็นแก๊งลักพาตัว

วันที่ 11 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก "สนั่น โกหนองแวง"ได้โพสต์ข้อความ “ฝากประชาสัมพันธ์ต่อด้วยนะครับ ช่วยๆ กันครับเหตุเกิดที่ หมู่ 10 ตำบลกันจุ อำเภอบึงสามพัน ถนนสายซับบอน วิเชียรบุรี” พร้อมทั้งนำข้อความที่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนส่งมาให้ แนบในโพสต์ ข้อความว่า “ ผอ.คะขอบอกประกาศผู้ที่ซับบอนนี้ให้ระวังเด็กๆ มีคนแปลกหน้าวนเวียนมาดูเด็กที่หมู่บ้านเตาถ่าน

ขอนแก่น!เตือนภัยแก๊งลักเด็กอาละวาด

จับคนอุ้มเด็กชายวัย 12 ไปทำร้ายจนบาดเจ็บ

วันนี้โชคดีมีผู้ใหญ่มาเจอ ก่อนเด็กบอกมีเด็กน้อยเต็มรถถูกมัด มีปืนด้วย เด็กวิ่งร้องเข้ามาในบ้านก่อน มีผู้ชายแปลกหน้าขี่มอเตอร์ไซค์มาดูก่อนหลายหน วันนี้ผู้ใหญ่ไปงานศพบนวัดโชคดีแฟนกลับมาเจอก่อนแล้วเขาก็ขับรถหนี สายๆ ก็มีรถพิกอัปตามมากระจกสีดำเด็กๆ บอกเขาเอากระจกลงมีปืนด้วย ชี้หน้ามีผู้หญิงคอยดูข้างในให้ผู้ใหญ่ระวังด้วยนะคะ”

ส่วนผู้ที่นำข้อความดังกล่าวมาออกโพสต์เพื่อเตือนภัยต่อ ก็คือ นายสนั่น โกหนองแวง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเขาซับบอน ต.ซับบอน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเบื้องต้น ได้เปิดเผยข้อมูลให้กับผู้สื่อข่าว ฟังว่าข้อความดังกล่าว เป็นของผู้ปกครองของเด็กนักเรียนรายหนึ่ง ที่ประสบเหตุการณ์ จึงได้โพสต์ข้อความเข้ามาในไลน์ส่วนตัวของตนเอง เพื่อให้ช่วยประกาศเตือน ในกลุ่มไลน์ของผู้ปกครอง ซึ่งตนเองก็มองว่า เป็นการเตือนไม่ให้ผู้ปกครองประมาท ไม่ได้คิดจะทำให้เป็นเรื่องที่สร้างความตกใจ ต่อผู้ปกครอง เพียงแค่กันไว้ดีกว่าแก้ ก็เท่านั้น

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของข้อความ ทราบชื่อคือ นางสาวธิญญารัตน์ กานต์วะรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 10 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน ทำให้ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 โดยเด็กที่ประสบเหตุ ก็คือลูกสาวของตน โดยวันนั้นลูกสาว ได้เล่าให้ฟังว่า มีรถยนต์กระบะ กระจกสีดำ คนในรถ ทำการลดกระจกลง ทำให้เห็นว่าในรถมีเด็กถูกมัดมือเอาไว้ โดยมีผู้หญิงนั่งประกบ แถมคนในรถยังมีอาวุธปืน

นอกจากนี้ยังเคยมีเหตุการณ์ ที่มีชายแปลกหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาในหมู่บ้าน ประมาณอาทิตย์ละครั้ง โดยที่รถแต่ละคัน ที่ขับมาล้วนไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งสิ้น บางครั้งชายแปลกหน้ายังจอดรถแล้วมาหาเด็กๆ ลูกของตนตกใจ จึงวิ่งร้องไห้เข้ามาในบ้าน ทำให้ชายคนดังกล่าว รีบเดินกลับขึ้นรถไป ส่วนทางด้านคดีความ เรื่องเด็กหาย หรือถูกลักพาตัวนั้น เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงสามพัน ได้ทำการตรวจสอบ ไปยังสถานีตำรวจ สภ.ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์แล้ว  แต่ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

จากการสอบถาม นางสาวธิญญารัตน์ กานต์วะรัตน์  เล่าว่า มีผู้ชายคนแปลกหน้า ขับรถเข้ามาในหมู่บ้านหลายวันแล้ว พฤติกรรมคือ จะวนรถมาอาทิตย์ละครั้ง แต่ตนนั้นไม่ได้รู้จักหรือเห็นหน้าเลย  แต่กลุ่มเด็กๆบอกว่า ชายดังกล่าวมามองจ้องหน้าแล้วชี้หน้า โดยตอนที่เด็กมาเล่าให้ตนฟังเด็กนั้นมีอาการตกใจร้องไห้ และตัวสั่น หลังจากนั้นก็มีวนมาเรื่อยๆ 2-3 ครั้ง แต่พอครั้งสุดท้ายนี้ที่มา มีเด็กเล่นกันอยู่หน้าบ้าน 2-3 คน พอเวลาผ่านไปได้ประมาณ 10 นาที จะมีรถกระบะ มาจอดอยู่หน้าบ้าน จังหวะนั้น คือ เด็กๆ ได้รีบวิ่งมาบอก ตนเองซึ่งอยู่บนบ้าน ก็มองลงไปเห็นเป็นรถกระบะเหมือนสีน้ำเงิน แต่ไม่ใส่ป้ายทะเบียน ช่วงเวลาเกิดเหตุคือ เวลาประมาณ 14.00 -15.00 น. ของวันจันทร์ ที่ 7 มิถุนายน 2564 โดยตนนั้นยังไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะกลัวว่าจะแจ้งความเท็จ เพราะตนนั้นยังไม่มีหลักฐานชัดเจน อยากจะฝากเตือนผู้ปกครองแถวนี้ ให้ระวังบุตรหลาน อย่าให้เด็กออกไปเล่นไกลสายตา

ด้าน นายกัลยศักดิ์ กานต์วะรัตน์ อายุ 41 ปี 177 ม.10 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พ่อของเด็กที่เจอเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นกับตัวเองเลย เพราะว่ารถคันนั้นจอดอยู่หน้าบ้าน แล้วมีผู้ชายเดินลงมาเข้ามาในบริเวณบ้าน ตอนนั้นตนเองกำลังอยู่ในบ้าน ซึ่งชายดังกล่าวไม่เห็นตน ขณะนั้นมีหลาน 2 คนกำลังวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านแล้วชายดังกล่าวได้เดินตามหลานของตนมา ตนมองดูอยู่ในบ้านเห็นท่าทางไม่ดีเลยเดินออกมา ชายดังกล่าวจึงหันหลังกลับไป โดยลักษณะชายดังกล่าวมีหุ่นท้วม เสื้อผ้าใส่ชุดเหมือนคนก่อสร้าง ขับรถกระบะคันเก่า แต่ไม่มีทะเบียน โดยวันนั้นมาคันเดียว

ขณะที่เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ เด็กคนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้น ชายดังกล่าวได้ชักปืนขึ้นมาเหมือนจะชี้หน้าตน ทำท่าทางเหมือนจะยิงปืนใส่ และเหมือนจะวิ่งไล่ แต่ว่าตอนนั้นตนได้รีบวิ่งหนีมาหาแม่ก่อน แล้วพอชายดังกล่าวเห็นแม่ของตน ชายดังกล่าวได้รีบขับรถหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้น คือ มีผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์นำหน้าไป ส่วนผู้ชายได้ขับตามมา โดยได้ขับรถมาคนละคัน โดยผู้ชายได้ใส่เสื้อสีเหลือง สวมกางเกงยีนส์ขายาว ใบหน้าใส่แมสก์ปิดไว้ พร้อมกับใส่หมวกกันน็อค

ส่วนเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นที่เห็นเหตุการณ์มีรถกระบะขับมา แล้วมีเด็กนั่งอยู่ภายในแคปของตัวรถ ปิดปาก มัดแขนมัดขาอยู่ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าภายในรถมีเด็กอยู่กี่คน จำใบหน้าของชายดังกล่าวไม่ได้ ตอนนั้นที่เห็นรถกระบะ ด้วยความกลัวจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านก่อน

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ