ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านของนายชัยวัฒน์ ทองมี พ่อค้าปลาหมึกย่าง ในอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาพบกับ ลูกสาววัย 8 และ 9 ขวบ 2 คน กำลังช่วยกันตากผ้าอยู่ใต้ถุนบ้าน ส่วนนางเบญจวรรณ ใจเพชร ภรรยา กำลังนอนพักอยู่บนบ้าน เธอเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเครียดและเป็นห่วงสามี วันเกิดเหตุเธอกำลังทำงานอยู่สามีโทรมาบอกว่ามีคนมายึดรถขณะกำลังขายปลาหมึกย่างอยู่ ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วขอไม่อยู่แล้วจะกินยาฆ่าตัวตาย ก่อนวางสายไป
พ่อค้าปลาหมึกย่าง ตัดพ้อชีวิตลงโซเชียล สุดท้ายกินยาฆ่าตัวตายต่อหน้าลูก
ญาติเผย “พ่อปาดคอลูก 4 ขวบ” มีประวัติฆ่าตัวตาย เหตุเครียดปัญหาครอบครัว
เธอจึงรีบเดินทางมาที่ร้านพบว่าสามีได้กินยาไปแล้วเธอจึงพยายามขอความช่วยเหลือโชคดีมีพลเมืองดีนำตัวสามีส่งโรงพยาบาล
นางเบญจวรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้่สามีมีอาชีพเป็นพนักงานส่งสินค้าแต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้บริษัทลดเงินเดือนไม่พอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัวจึงตัดสินใจลาออกตั้งใจจะออกมาขายปลาหมึกย่างลงทุนก้อนแรกไป 20,000 บาท เริ่มขายเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ทุกวันต้องลงทุนหลักพันบาทแต่ขายได้หลักร้อยไม่เคยได้กำไรเพราะอาหารทะเลต้องซื้อวันต่อวันแม้จะเปลี่ยนมาขายอาหารทะเลดองทางออนไลน์แต่ก็ไม่มีคนสั่งซื้อ
ปมเหตุสามีเครียดหนัก เนื่องจากเมื่อวานนี้ รถยนต์มือสองที่เธอซื้อมาใช้ทำมาหากิน ซื้อต่อมาในราคา 55,000 บาท เจ้าของรถเดิมได้ติดต่อมาขอเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท โดยเจ้าของรถอ้างว่ารถยังติดไฟแนนซ์อยู่หากไม่มีเงินจะมีบริษัทมายึดรถ แต่ตอนนั้นครอบครัวไม่มีเงินจึงไม่ได้จ่ายไปเจ้าของรถเลยมายึดกลับไป
อีกทั้งครอบครัวยังติดหนี้นอกระบบที่กู้มาใช้จ่ายอีก 30,000 บาท รวมถึงค่าเช่าบ้านที่ค้างอยู่อีก 6,000 บาท ทำให้สามีเกิดความเครียดสะสม
ทีมข่าวเดินทางไปยังแผงปลาหมึกย่างของนายชัยวัฒน์ ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลบ้านสร้าง หน้าร้านขายโทรศัพท์มือถือ ดร.คอนแนค พูดคุยกับ พ.ต.ท.หญิง รัญญรัตน์ เรืองเวทยาวงค์ เจ้าของร้านและเจ้าของพื้นที่ให้เช่าร้านปลาหมึกย่างขาย เล่าว่าวานนี้ช่วงเย็นเธอเห็นชายคนหนึ่งเดินมาบริเวณหน้าร้าน จากนั้นลูกสาวนายชัยวัฒน์ได้เข้ามาถามเธอเพราะเห็นว่าพ่อหายไป ไม่นานได้ยินเสียงร้องดังมาจากหน้าร้านจึงออกไปดู ลูกสาวบอกว่าพ่อกินยาฆ่าตัวตายเธอตกใจอย่างมากจึงเรียกให้คนช่วยโชคดีมีพลเมืองดีที่จะมาซื้อปลาหมึกย่างเข้าช่วยเหลือไว้ทัน มาทราบภายหลังว่ามีคนมายึดรถจึงเกิดความเครียด
ที่ผ่านมาเธอไม่เคยทราบว่านายชัยวัฒน์มีปัญหาเครียดอะไร มีแต่ลูกสาวที่มาบอกว่าพ่อขายของไม่ได้ พ่ออัดคลิปลง TikTok หลังเกิดเหตุการณ์นี้รู้สึกเสียใจและเป็นห่วงครอบครัวนายชัยวัฒน์มาก หลังจากนี้ตนจะคืนค่าเช่าให้และจะให้ขายฟรีเพื่อช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง
คือหน้าตาเขาน่าขายของนะ น้องเขาเป็นคนไนซ์จากคำพูดคือตั้งแต่วันแรกที่เขามาติดต่อพี่อรก็จะคุยกับพี่สาวว่าน้องเขาเป็นคนดีเลยนะ ดูน่าค้าขายและเป็นคนไนซ์พูดจาคือไม่ต่อรองราคาไม่มีเงื่อนไขไม่มีอะไรกับเราเลย อะไรอย่างนี้ แต่ก่อนหน้านี้ลูกเขาก็เดินมาบอกพี่อรแหละว่าพ่อนั่งร้องไห้บ้าง เราก็คิดว่าเด็กเขาพูดเล่นเราไม่เคยนึกว่าน้องกอล์ฟมีภาระเรื่องรถเนอะ เขาไม่เคยมาพูดมาเล่าเรา ไม่เคยมาพูดแม้กระทั่งเมื่อวานเขาก็ไม่พูดคือไม่เคยมารบกวนอะไรเราเลยไง แต่ก่อนหน้านี้ 1 วัน วันสุดท้ายที่เขามาขายลูกก็มาเล่าว่าพ่อร้องไห้ขายได้ 140 บาท พ่อบอกว่าจะสู้เพื่อหนู ก่อนที่เขาจะหยุดไปแล้วเขาโพสต์
เรื่องราวของนายชัยวัฒน์ มีการประสานงานช่วยเหลือกันตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ เริ่มจาดวันที่ 28 มิ.ย. นายชัยวัฒน์ ได้โพสต์คลิปลง TikTok ใจความเป็นการตัดพ้อกับชีวิตตัวเองที่ขายของไม่ได้ เป็นหนี้และจะถูกไฟแนนซ์มายึดรถจึงเกิดความเครียด
อีกคลิปเป็นคลิปที่นายชัยวัฒน์กำลังร้องไห้กอดลูกสาวพร้อมสั่งเสีย หาคนอุปการะเลี้ยงดูลูกสาว ทั้ง2 คนซึ่งเรียนเก่งมากๆ จากนั้นระบายถึงโลกใบนี้โหดร้ายเหลือเกินใครที่บอกว่าให้สู้ ตนเองก็สู้มาทุกทางแล้วแต่มันตันไปหมด สู้มาทุกอย่างแล้วแต่ไปต่อไม่ไหวจริงๆต้นทุนชีวิตไม่เหมือนกันและไม่มีทางออก
ก่อนที่โลกออนไลน์จะช่วยกันแชร์คลิปดังกล่าวทำให้มีคนหลั่งไหล่เดินทางไปซื้อปลาหมึกย่างกันอย่างต่อเนื่องจนเริ่มขายดีในช่วง 1-2 วันหลังคลิปถูกแชร์ แต่ก็มาเกิดเหตุในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) ที่มีเจ้าของรถเข้ามายึดรถกลับไปจึงทำให้เกิดความเครียด ตัดสินใจกินยาความดันที่เป็นยาโรคประจำตัวจนหมดกระปุกหวังฆ่าตัวตาย
ล่าสุดมีหลายภาคส่วนหลายหน่วยงานที่ทราบข่าวได้เข้าไปพูดคุยช่วยเหลือครอบครัวนี้เบื้องต้นแล้ว