สงสัยรถบรรทุกปริศนา มุ่งหน้าจุดทิ้งสารเคมี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ทีมข่าวพีพีทีวีขยายผลต่อไป พบว่า มีร้านขายของเก่าอย่างน้อย 2 แห่ง ที่รับซื้อถังเปล่าจากคนขับรถแบ็กโฮ ที่จุดลักลอบทิ้งสารเคมี โดยทีมข่าวยังได้ภาพที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ โดยชาวบ้านตั้งข้อสังเกตเป็นรถบรรทุกต้องสงสัย

รถบรรทุก10ล้อที่กำลังขนถังสีเขียววิ่งบนถนนสายโท มุ่งหน้าไปทางซอย 11จุดที่พบการลักลอบทิ้งถังสารเคมี ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี หากสังเกตตัวรถมีข้อความภาษาอังกฤษระบุชื่อบริษัทชัดเจน

ภาพนี้ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษไปตรวจสอบต่อ ว่าจะมีความีเกี่ยวข้องกับถังสารเคมีที่พบในจุดลักลอบทิ้งหรือไม่ 

นายพศิน เรืองศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ดีลัง ยืนยันว่าลูกบ้านแจ้งว่าได้รับกลิ่นสารเคมี มาประมาณ20วันแล้ว หลังมีรถบรรทุกเข้าไปที่จุดทิ้งสารเคมีหลายครั้ง มีทั้งเข้ามาตอนกลางคืนและกลางวัน 

ชาวบ้านหอบลูกหลาน หนีพิษสารเคมีลพบุรี

เข้าใช้ห้องน้ำสาธารณะอย่างปลอดภัย ห่างไกลเชื้อโรค

โดยครั้งสุดท้ายที่เข้ามา คือ วันที่ 12 กันยายน 2564  หลังจากเข้าไปตรวจสอบ พบว่า มีความพยายามจากคนที่ลักลอบทิ้งสารเคมี จะนำสารเคมีที่เหลือมาทิ้งไว้อีก แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะได้สั่งจัดชุดเฝ้าระวังไว้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว

ทีมข่าวสำรวจร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่พบว่ามีถังจากที่นี่ ถูกขายให้ร้านรับซื้อของเก่า อย่างน้อย 2 แห่ง ร้านแรกถังสารเคมีถูกผ่าแบ่งครึ่ง มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ ถูกกองไว้  เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับถังสารเคมีที่ถูกทิ้งในพื้นที่เอกชน พบว่าทั้งสี และตัวอักษร เหมือนกัน ข้อความแบบเดียวกัน

สอบถามเจ้าของร้าน ยืนยันว่าถังเหล่านี้ไปรับซื้อมาจากจุดทิ้งสารเคมี ซึ่งมีคนมาชวนให้ไปซื้อถังเปล่า

ทีมข่าวไปสำรวจร้านรีไซเคิลอีกแห่ง ให้ข้อมูลคล้ายกัน ว่ามีคนมาชวนให้ไปรับซื้อถังเปล่า  จึงขับรถไปเลือกถังด้วยตัวเอง ช่วงแรกยังไม่มีกลิ่น เพราะเป็นถังเปล่า แต่หลังจากนั้น ก็เริ่มมีถังที่มีน้ำ  มีกลิ่น จึงให้ลูกน้องเจาะถังเอาน้ำออก แล้วนำถังเปล่า ไปเข้าโรงหลอมเหล็กทันที ซึ่งร้านรับซื้อของเก่าเจ้านี้ ซื้อถังเปล่าทั้งหมด100 ใบ ราคาใบละ 100  บาท

สำหรับการลักลอบทิ้งสารเคมีที่จังหวัดลพบุรี ทีมข่าวพีพีทีวีสัมภาษณ์พิเศษ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการเย้ยกฎหมายอย่างมาก สะท้อนว่าผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุนในการกำจัด

สำหรับการสืบสาวหาต้นตอของกลุ่มลักลอบทิ้งสารเคมีครั้งนี้  จะแยกเป็น 2 ส่วน 1. ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ที่ยากแก่การฟื้นฟู เช่นความเสียหายของดิน  ความเสียหายของน้ำ เรื่องนี้จะหารือกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาลด้วยว่าส่งผลกระทบน้ำใต้ดินหรือไม่ เบื้องต้นประเมินการกำจัดสารเคมีในจุดลักลอบทิ้งที่จังหวัดลพบุรี ว่าต้องจ่ายสูงกว่า 100 ล้านบาท โดยต้องหาตัวผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบทั้งหมด

ส่วนที่ 2.การสืบสวนหาต้นตอ คือ กลุ่มบุคคล หรือ บริษัท ที่เป็นเจ้าของสารเคมีจำนวนมากเหล่านี้  โดยเรื่องนี้นายอรรถพล ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก  โดนเวลานี้มีหลักฐานเป็น ภาพรถที่คาดว่านำสารเคมีมาทิ้ง ฉลากที่อยู่บนถังสารเคมี ข้อมูลจากชาวบ้าน โดยกรมควบคุมมลพิษจะรวบรวมและติดตามหากลุ่มคนเหล่านี้มาให้

ทีมข่าวพีพีทีวียังได้คุยกับ นาย พิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ซึ่งเป็นคนรวบรวมรายละเอียดเรื่องนี้ เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่กรมควบคุมมลพิษได้รับ คือ ภาพที่ถูกบันทึก เมื่อวันที่ 9 กันยายน พบรถที่คาดว่าบรรทุกสารเคมีนำมาทิ้งในจังหวัดลพบุรี  2 คัน ตรวจสอบแล้วอยู่ในบัญชีของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขณะนี้นำหลักฐานนี้ส่งให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกคนขับมาสอบปากคำขยายผลแล้ว และส่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย

ผอ.กองกฎหมาย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุอีกว่า จะพายามหาความเชื่อมโยง ผู้อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้ให้ได้  โดยในทางเทคนิคสามารถตรวจสอบสถานะของโรงงานต้องสงสัยประกอบได้ เช่น มีโรงใดถูกสั่งปิดหรือหยุดประกอบกิจการชั่วคราว และเคยถูกร้องเรียนโดยมีสารเคมีอันตรายค้างอยู่ในเวลาใกล้เคียงกับการลักลอบทิ้ง ก็เข้าข่ายโรงงานต้องสงสัย ซึ่งจะต้องดูประกอบกับพยานหลักฐานอื่น 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ