ส่องความคุ้มค่า...ขบวนรถไฟดีเซลรางญี่ปุ่นที่มอบให้ไทย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รฟท. ออกมายืนยันว่าขบวนรถไฟดีเซลรางที่ญี่ปุ่นมอบให้ไทย มีความคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมปรับขบวนเป็นรถไฟท่องเที่ยวและเฟิร์สคลาส ลองมาดูกันว่าคุ้มค่าจริงไหม

จากการที่บริษัท  JR Hokkaido มอบรถดีเซลราง จำนวน17 คัน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดย รฟท.รับผิดชอบเพียงแค่ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเท่านั้น และมีหลายคนแสดงความเห็นว่า ความคุ้มค่าเพราะเห็นว่ารถไฟจากญี่ปุ่นได้ใช้งานมาแล้ว 30 - 40 ปี  อีกทั้งมีขนาดความกว้างของล้อ 1.06 เมตร ขณะที่ รางรถไฟไทยมีขนาดกว้าง 1 เมตร นั้นอาจส่งผลให้ รฟท. ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงจำนวนมาก 

เผยโฉมร่างแบบปรับปรุงรถไฟเก่าญี่ปุ่นแปลงเป็นรถไฟท่องเที่ยว

ร.ฟ.ท.แจงญี่ปุ่นให้รถไฟดีเซลรางฟรี 17 คัน จ่ายแค่ค่าขนย้ายเอง

เจาะลึกข้อมูลรถไฟดีเซลรางมือ 2 จากญี่ปุ่น (เคย)ได้มาแล้วใช้งานได้จริงหรือไม่

โดยล่าสุด การรถไฟได้ดำเนินการชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นเรื่องความกว้างของราง ว่า ปัจจุบันในแต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาค ใช้ขนาดความกว้างของรางรถไฟแตกต่างกันออกไป

เช่น ยุโรป และ จีนใช้ความกว้างของราง ขนาด 1.435 เมตร หรือเรียกว่า Standard Gauge ประเทศในแถบ เอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน บังคลาเทศ อินเดีย ใช้ความกว้างของรางขนาด 1.60 เมตร ซึ่งการกำหนดความกว้างของรางนั้น เป็นเรื่องของการใช้พื้นที่และการเชื่อมโยงกันในภูมิภาคเป็นปัจจัยสำคัญ

ขณะที่ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ส่วนมากใช้ความกว้างของรางขนาด 1.00 - 1.067 เมตร โดย รฟท. มีขนาดความกว้างของราง 1.00 เมตร ส่วนรถไฟญี่ปุ่นมีขนาดกว้าง 1.067 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นรางมาตรฐาน เดียวกันคือ Narrow Gauge โดยความกว้างของรางขนาด 1.00 เมตร ของ รฟท. นั้น สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟของประเทศมาเลเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่าได้ 

ส่วนความกว้างล้อ ด้วยความรถดีเซลราง จำนวน 17 คัน ของ JR Hokkaido ที่มอบมาให้นั้น รฟท. แค่นำมาปรับฐานล้อด้วยเครื่องอัดไฮดรอลิคที่โรงงานมักกะสันก็สามารถนำออกมาให้บริการได้ทันที ซึ่งการปรับปรุงสภาพรถและปรับขนาด

ความกว้างของฐานล้อเป็นเรื่องที่ศูนย์แผนงานและการผลิต โรงงานมักกะสัน ฝ่ายการช่างกล ดำเนินการเป็นปกติทางด้านวิศวกรรมเครื่องกลอยู่แล้ว โดยเฉพาะการปรับปรุงความกว้างของฐานเพลาล้อจาก 1.067 เมตร ให้เป็น 1.00 เมตร สามารถปรับได้มากถึง 2-3 คันต่อวัน 

สำหรับกรณีการดันล้อที่มีพิกัดความกว้าง 1.067 เมตร ไปใช้ในความกว้าง 1.00 เมตร ถือว่าเป็นขั้นตอน หนึ่งในการซ่อมบำรุงล้อและเพลาตามปกติของ รฟท. แม้แต่รถโดยสารที่วิ่งให้บริการอยู่ในปัจจุบันก็ต้องมีการนำรถโดยสารเข้ามาตรวจสอบสภาพ ปรับฐานล้อให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อความปลอดภัยในการให้บริการ            

ความคุ้มค่า ที่ผ่านมาในอดีต รฟท. เคยได้รับรถดีเซลรางและรถโดยสารปรับอากาศมาจาก JR West ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2540 จำนวน 26 คัน ปี 2542 จำนวน 28 คัน ปี 2547 จำนวน 40 คัน ปี 2553 จำนวน 32 คัน และรถโดยสารจากควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2538 จำนวน 21 คัน ซึ่ง รฟท. ได้นำรถที่ได้รับมอบเหล่านี้มาปรับความกว้างฐานเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1.00 เมตร 

ซึ่งหลังจากปรับปรุงแล้วสามารถนำมาให้บริการได้จนถึงปัจจุบัน รวมเป็นระยะเวลากว่า 25 ปีแล้ว แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ตาม ได้มีการนำรถโดยสารที่ปลดระวางแล้วมาดัดแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสมกับการให้บริการในด้านต่างๆ เช่น การส่งเสริมภาพลักษณ์ สนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น

ส่วนรถโดยสารควีนแลนด์ ปัจจุบัน รฟท. ยังใช้ให้บริการในขบวนรถชานเมืองเป็นประจำทุกวัน โดยสังเกตุได้จากขบวนรถที่ทำจาก Stainless คาดสีเขียว ซึ่งล้วนเป็นรถไฟที่ รฟท. ได้รับมาและดำเนินการซ่อมบำรุง และปรับปรุงความกว้างของฐานล้อทั้งสิ้น ซึ่งยังสามารถใช้การได้เป็นอย่างดี  

สำหรับรถโดยสารปรับอากาศ 10 คันที่ JR Hokkaido มอบมาก่อนหน้านี้ รฟท. มีแผนจะดัดแปลง เป็นขบวนรถท่องเที่ยว ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการผ่านขั้นตอนการปรับปรุงความกว้างของฐานล้อ จาก 1.067 เมตรเป็น 1.00 เมตร เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันจอดอยู่ที่ ศรีราชา และ รฟท. อยู่ระหว่างประกาศการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อทำการดัดแปลงเป็นขบวนรถท่องเที่ยว ตามที่มีการร่วมมือกับ ทาง TCDC และมีการวางแผน ทางการตลาดไปก่อนหน้านั้น ส่วนขบวนรถ ดีเซลราง Kiha183 จำนวน 17 คันล่าสุดนั้น หลังจากรับเข้ามาแล้ว จะต้องทำการปรับปรุงให้เหมาะสมและเป็นปตามแผนงานตามมาตรฐาน ของ รฟท. โดยคาดว่าจะสามารถทยอย นำออกให้บริการได้ ภายในต้นปี 2565 

อะไหล่ซ่อมบำรุง ส่วนประเด็นการนำเข้าอะไหล่ซ่อมบำรุงนั้น เนื่องจากประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม รถไฟ รวมถึงรถจักร และรถโดยสาร ดังนั้น การซ่อมบำรุงรถจักรล้อเลื่อน ส่วนใหญ่ ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น และยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ รถไฟฟ้า ทั้ง BTS และ BEM ก็ล้วนใช้อะไหล่นำเข้าทั้งสิ้น 

สำหรับรถดีเซลรางที่ทางบริษัท JR Hokkaido ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนเดินรถของประเทศญี่ปุ่น ได้มอบให้ การรถไฟฯ ถือเป็นความร่วมมือและการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างการรถไฟฯ และบริษัทในเครือ JR ที่มีมาอย่างยาวนาน โดยการรถไฟฯ มีหนังสือตอบรับมอบรถดีเซลราง ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 2560 แต่ติดปัญหาเรื่องการขนย้ายจึงทำให้ล่าช้ามาจนถึงปัจจุบัน และเพื่อการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับบริษัท JR Hokkaido จึงได้ว่าจ้างบริษัททำการขนย้ายรถไฟทั้ง 17 คัน 

จากการตรวจสอบสภาพตู้รถโดยสารในเบื้องต้น ขบวนรถดีเซลรางอยู่ในสภาพดีได้รับการดูแลบำรุงรักษาจากทางญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่การรถไฟฯ ได้รับมอบตู้โดยสารแล้วจะมีการเข้าไปตรวจสอบด้านความปลอดภัย และนำมาดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจะนำตู้โดยสารดังกล่าวมาปรับปรุงเพื่อใช้ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศตามนโยบายรัฐบาลต่อไป

ศบค.ย้ำหลักเกณฑ์เปิดกรุงเทพฯ ยอดติดเชื้อลดลง-ฉีดวัคซีนครบเข็ม 2 เกิน 70 %

เดือนกันยายนได้หยุดยาว 3 วัน ศุกร์ 24 ก.ย. "วันมหิดล" หยุดเพิ่ม 1 วัน

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ