ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านนับสิบหลังคาเรือน ที่มาซื้อที่ดินปลูกบ้านอยู่ภายใน ซอยด้านข้างร้านอาหารครัวภักดี หมู่ 1 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับความเดือดร้อน จากกรณีเจ้าของที่ดินข้างเคียง ซึ่งมีที่ดินติดกับด้านหลังบ้านของผู้ได้รับความเดือดร้อนนับสิบหลัง ได้ดำเนินการนำดินเข้ามาถมที่จนสูงกว่า 3 เมตร แถมยังก่อกำแพงสูงบนที่ดินที่ทำการถมใหม่จนมิดหลังคาบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน
เพื่อนบ้าน ร้องเรียนป้าเคาะหม้อเสียงดัง
ผู้ว่าฯตรัง เคลียร์ปมขัดแย้ง เด็กปีนกำแพงไปโรงเรียน
นายธัชชัย กรกุม อายุ 37 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้มาซื้อบ้านอยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งที่ดินด้านหลังบ้าน เป็นที่ดินรกร้าง ซึ่งเจ้าของไม่ได้ทำประโยชน์ใด ๆ กระทั่ง เจ้าของที่ดินดังกล่าว ได้ขายที่ดินให้กับเจ้าของรายใหม่ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในพื้นที่ เจ้าของรายใหม่ได้เริ่มเข้ามาปรับปรุงพื้นที่รกร้างดังกล่าว โดยทำการตัดต้นไม้ ไถปรับพื้นที่และมีการนำรถขนดินเข้ามาถมที่ดินจนสูงกว่า 3 เมตรเทียบเท่ากับระดับหลังคาบ้านของชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหลังจากเจ้าของที่ดินได้ทำการถมดินจนสูง ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จึงได้เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้เจ้าของที่ดินยุติการถมที่ดินที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยได้ยื่นร้องเรียนครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 แต่หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว แทนที่เจ้าของที่ดินจะหยุดการถมที่ แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าของที่ดินได้สร้างกำแพงสูงขึ้นมาบนที่ดินที่ถูกถมใหม่ ซึ่งกำแพงดังกล่าวก็สูงจนมิดหลังคาบ้านของชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนนับสิบหลัง
คาด 3 วัน กู้เรือสินค้ากลางเจ้าพระยาสำเร็จ
อีกทั้ง ในช่วงที่มีฝนตก ปรากฏว่าน้ำจากที่ดินที่มีการถมใหม่ได้ไหลทะลุกำแพงปูนที่เจ้าของที่ดินสร้างขึ้น ไหลเข้ามาท่วมในบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน และน้ำที่ไหลทะลุกำแพงปูนมายังบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน ยังทำให้ที่ดินในบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนยุบตัว จนเกิดความเสียหายกับตัวบ้านหลายจุด กลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจึงเดินหน้ายื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสภาทนายความจังหวัดกาญจนบุรี ทำหนังสือทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทำเรื่องร้องเรียนยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย รวมถึงยื่นเรื่องถวายฎีกา รวมแล้วกว่า 6 ครั้ง แต่ปัญหาดังกล่าวก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข
ร้องหนี้นอกระบบเงินต้น 5 พัน ดอกพุ่ง 1.9 ล้าน
ทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็ทำได้เพียงเรียกเจ้าของที่ดินมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับชาวบ้าน ซึ่งเจ้าของที่ดินก็เพียงรับปากว่าทำการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำที่รั่วทะลุกำแพงให้กับชาวบ้าน แต่ก็ไม่เคยทำการแก้ไขใด ๆ ตามที่รับปาก ขณะที่ทางเทศบาลก็ได้มีคำสั่งให้เจ้าของที่ดิน ระงับการถมที่ดิน แต่ทางเจ้าของที่ก็นิ่งเฉยและไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขใด ๆ ทุกวันนี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่างต้องอาศัยอยู่กันอย่างหวาดระแวง เนื่องจากกลัวว่า ดินที่ถมจนสูงและกำแพงที่ก่อจนมิดหลังคาบ้านนี้ จะเกิดพังถล่มลงมาทับบ้านของชาวบ้านไม่วันใดก็วันหนึ่ง
อีกทั้ง บ้านที่เคยซื้อในราคาหลักล้านที่เคยมีทัศนียภาพสวยงาม ปัจจุบันก็ถูกปกคลุมด้วยกำแพงปูนจนมองไม่เห็นอะไร แสงแดดส่องไม่ถึง ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนบางรายถึงกับตัดใจ ประกาศขายบ้านทิ้ง เพราะปัญหาที่ไท่ได้รับการแก้ไขมานานนับปี
ล่าสุด นายธนณัฐ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้าได้เดินทางลงพื้นที่หมู่บ้านซึ่งได้รับผลกระทบ เพื่อพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงเข้าตรวจสอบ โดยนายอำเภอ กล่าวว่า เรื่องร้องเรียนได้มีการทำหนังสือร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมือง และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน และการดำเนินการถมที่ดินรวมถึงการก่อสร้างกำแพงสูงดังกล่าว ขั้นตอนการตรวจสอบล่าสุด
ทางศูนย์ดำรงธรรมได้มอบให้ทางโยธาธิการ เข้ามาดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของกำแพงสูงที่สร้างอยู่ในพื้นที่ ที่มีการถมดินขึ้นมาใหม่ดังกล่าว แต่เนื่องจากการขออนุญาตของทางเจ้าของที่ดิน ได้หมดระยะเวลาการดำเนินการเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และทางเจ้าของที่ดินเองก็ได้เข้ามายื่นขอต่ออายุการดำเนินการถมที่ดินและก่อสร้าง แต่เนื่องจากทางอำเภอและทางเทศบาลตำบลลาดหญ้าเห็นว่า มีเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวอยู่ จึงได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างและถมที่ดินในบริเวณดังกล่าวเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของการถมที่ดินและก่อสร้างดังกล่าว ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งให้ทางอำเภอเมืองกาญจนบุรีดำเนินการจัดประชุมโดยเรียกเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว รวมถึงชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมประชุมด่วน เพื่อหาทางออกของปัญหาดังกล่าวร่วมกันในวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองกาญจนบุรี
ด้านนายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า กล่าวว่า ทางเทศบาลได้ดำเนินการ ระงับการขออนุญาต ดำเนินการถมที่ดินและก่อสร้างในที่ดินแปลงดังกล่าวเอาไว้แล้ว และจะได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่า ระหว่างที่ทางเทศบาลระงับการต่อใบอนุญาตถมที่ดินและก่อสร้างนั้น ทางเจ้าของที่มีการเข้าไปดำเนินการก่อสร้างหรือถมที่ดินเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงจะได้มีการตรวจสอบถึงการดำเนินการถมที่ดินแปลงดังกล่าวว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้หรือไม่ เนื่องจากทางเจ้าของที่ดินซึ่งมีการถมที่ ยืนยันว่ามีการขออนุญาตและดำเนินการถมที่ดินอย่างถูกต้องตามที่ข้อกฎหมายระบุเอาไว้ แต่เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าว มีลักษณะเป็น สี่เหลี่ยมผืนผ้าแปลงยาว ด้านหน้าซึ่งติดกับถนนนั้น มีความสูงเทียบเท่ากับพื้นถนนปกติ แต่ที่ดินด้านหลังซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ มีลักษณะลาดเอียงต่ำลง ทางเจ้าของที่จึงมีความจำเป็นต้องถมที่ดินให้สูงขึ้นอยู่ในระดับเดียวกับพื้นผิวถนนด้านหน้า อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นไปตามคำกล่าวอ้างของเจ้าของที่ดินดังกล่าวหรือไม่ต่อไป