ถนนทรุดตัวเส้นจรัญฯ ทำรถตกหลุม
รถขนแรงงานเถื่อนคว่ำ ตาย 6 ศพ เจ็บ 7 คน
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งขับรถมาในช่องทางปกติ แต่มีรถตำรวจนำขบวน ขับสวนขึ้นมา ด้านหลังมีรถยนต์หรูขับตามมา ตำรวจเปิดไซเรนขอทาง แต่ผู้หญิงคันที่อัดคลิปไว้ระบุว่า ไม่หลบให้ เพราะ เธอขับรถมาทางหลักตามปกติไม่ได้ทำผิดกฎจราจร ตำรวจในคลิปบอกว่ากำลังอำนวยจราจรอยู่ พร้อมระบุว่า ไม่ได้ว่าอะไร ถัดจากนั้นตำรวจก็เบี่ยงขวา เข้าไปในช่องการจราจรของตัวเอง แต่ด้านหลังก็มีรถคันอื่น ๆ สวนช่องจราจรตามมา ทำให้รถติดยาวเป็นแนวยาว
หลังมีการเผยแพร่คลิปนี้ ออกมามีการวิจารณ์อย่างหนัก ว่าเข้าข่ายผิดกฎจราจร นอกจากนี้ยังชื่นชมคนขับรถที่ถ่ายคลิปไว้ว่าใจกล้ามาก
ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเรื่องการขอรถนำขบวน พบว่า ตำแหน่งที่สามารถขอรถนำขบวนได้ แม้เป็นภารกิจปกติ คือ ประธานองคมนตรีรัฐบุรุษ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสูงสุด สมเด็จพระสังฆราช รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎร ผู้เคยตำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ส่วนกลุ่มที่สามารถหากใช้ขอเป็นครั้งคราว เป็นรายกรณี เช่น กลุ่มผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ องคมนตรี ผู้นำทางศาสนาอื่น
ส่วนกลุ่มที่สามารถขอใช้ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนทางราชการ เช่น กรณีกลัวว่าจะเดินทางไม่ทันเวลา กลุ่ม ผู้พิพากษา หัวหน้าศาล ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก็สามารถขอใช้รถนำขบวนได้
ทีมข่าว PPTV ประสานพูดคุยกับพลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบที่มาและรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ ยังไม่กล้าตัดสิน แต่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า กรณีรถนำขบวนของตำรวจ สามารถขับขี่ย้อนศรได้ แต่ต้องกระทำในบริบทที่จำเป็น เช่นเกิดเหตุสุดวิสัย ลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือนำขบวนผู้นำระดับประเทศ ย้ำว่าหากตรวจสอบพบว่าตำรวจกระทำความผิดก็จะต้องว่าไปตามความผิดนั้น
ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ มองว่า คลิปเห็นชัดว่าเป็นถนนแบบ one way วิ่งได้ทางเดียว รถที่ขับสวนมาถือว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 41 ระบุให้ผู้ขับขี่รถไปตามทิศทางที่กำหนด ใครฝ่าฝืน (ขับย้อนศร) มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และความผิดตามมาตรา 43 (8) ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่ให้แจ้งข้อหาฐานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท พร้อมมองว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายไม่ควรแสดงแบบอย่างที่ผิดกฎหมายกับประชาชนเว้นแต่ว่าในรถมีคนใกล้จะตายถ้าแบบนี้ก็อนุโลมได้