นางสมเร็จ เกรัมย์ เปิดเผยหลังสูญเสียลูกสาว น.ส.พัชราภา หรือน้องหญิง วัย 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปีที่ 4 ที่เสียชีวิตจากถูกรถเบนซ์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ เมื่อ1 พ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างขับรถกลับบ้านว่า เธอกับลูกสาวสนิทกันมาก ซึ่งเธอนั้นสุขภาพไม่ค่อยดี ลูกสาวเป็นคนคอยดูแลพาไปหาหมอ โดยลูกสาวฝันอยากเป็นอัยการจึงเรียนกฎหมาย สุดท้ายความฝันก็ดับลง
เรียนรู้อยู่กับ PM 2.5 รู้จักวิธีการทำงานของเครื่องฟอกอากาศแบบ ฟิลเตอร์ VS ไอออน
เปิดยอดโบนัส 29 บริษัท- โรงงานใหญ่ จ่ายสูงสุด 8.7 เดือน แถมขวัญถุงเงินพิเศษสุดพีค
ด้าน นายสมชาย เกรัมย์ พ่อน้องหญิง เล่าว่า วันเกิดเหตุทราบเพียงว่าคนขับเบนซ์เป็นผู้หญิง รับสารภาพว่าขับรถประมาท และยังเอาเงินมาช่วยจัดงานศพ 100,000 บาท ส่วนเงินเยียวยาอื่นๆ คนขับบอกว่า รถมีประกันชั้น 1 น่าจะได้รับส่วนต่างอีก
คดีนี้ตำรวจ สภ.กระสัง ส่งเรื่องฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ กระทั่งศาลชั้นต้นตัดสินว่าคนขับรถเป็นฝ่ายประมาท
ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยหรือ คปภ.มีความเห็นให้บริษัทประกันภัยอาคเนย์ประกันภัย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 2,500,000 ภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2564 แต่ถึงตอนนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับเงินชดเชยแม้แต่บาทเดียวทำให้ รู้สึกน้อยใจ ซึ่งบริษัทประกันปฏิเสธการจ่าย อ้างว่าผู้ขับรถเบนซ์ ไม่ได้ประมาท และให้ไปฟ้องร้องต่อศาล
ซึ่งครอบครัวไม่มีปัญญา เพราะเงินค่าทำศพก็ต้องไปกู้ยืมมายังต้องส่งดอกมาจนถึงปัจจุบัน จึงอยากเรียกร้องให้ผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ
กรณีนี้นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวให้ความเห็นว่า คดีแบบนี้โดยปกติอัยการฟ้องคดีอาญาแล้ว จะยื่นขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งให้แก่ผู้เสียหายด้วย หากไม่จ่ายก็ดำเนินการในส่วนบังคับทางคดีแพ่งต่อไป
หากบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายเงิน ครอบครัวบอกว่าไม่มีเงินจ้างทนายความ แนะนำให้กลับไปหาอัยการ สำนักงานอัยการมีสำนักงานคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย โดยเฉพาะมีฐานะยากจน ขัดสน อัยการมีบริการจัดหาทนายความอาสา และช่วยดูแลคดีให้เกิดความเป็นธรรม
สมาคมประกันฯ ชี้ไม่ให้ยกเลิก “เจอ จ่าย จบ” หวั่นเสียหายวงกว้าง คาดยอดเคลมแตะ 4 หมื่นล้าน
หนุ่มเมืองใต้ ถูกสาวลูกครึ่งในเฟซบุ๊กหลอกให้รัก สูญเงิน 5.6แสน
ล่าสุดบริษัทอาคเนย์ประกันภัยชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีเอกสารบันทึกการสำรวจอุบัติเหตุของบริษัทฯ ระบุไว้ด้วยลายมือของผู้เอาประกันภัยรถเบนซ์ว่า เกิดเหตุบริเวณทางโค้งด้านข้างเป็นช่องทางเข้าหมู่บ้าน โดยรถจักรยานยนต์คู่กรณีขับพุ่งออกมาจากซอยตัดหน้ารถเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน
โดยพนักงานสอบสวนตรวจสอบสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และพื้นที่เกิดเหตุ พบว่า รถเบนซ์มีร่องรอยความเสียหายหลักบริเวณกระโปรงหน้า ล้อหน้า ประตูหน้า และกระจกหน้าฝั่งซ้ายของรถยนต์
ขณะที่รถจักรยานยนต์พบความเสียหายเฉพาะบริเวณด้านขวาของตัวรถ ส่วนบริเวณท้ายรถจักรยานยนต์ไม่พบร่องรอยจากการขับรถชนท้าย
จากเอกสารพยานหลักฐาน ผู้ขับขี่รถคันเอาประกันภัยจึงมิใช่ฝ่ายประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งบริษัทฯได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงกับหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว ยืนยันว่าได้ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม และให้ความสำคัญต่อความถูกต้องด้านจรรยาบรรณ