จากกรณีที่ สำนักข่าวแห่งหนึ่ง โพสต์ข้อความ กล่าวหา พระมหาไพรวัลย์ ว่ามีเงินเก็บจำนวนมาก ด้านพระมหาไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความ ตอบกลับว่า หลังอาตมาสึกทนายท่านไหนอยากได้เงินไว้เลี้ยงชีพ อาตมาจะมอบอำนาจให้นะ อาตมาจะฟ้อง เงินที่ได้จากการฟ้อง อาตมาจะไม่เอาสักบาท อาตมาจะมอบให้ทนายท่านนั้น
ต่อมาสื่อดังกล่าวได้ทำหนังสือกราบขออภัย “พระมหาไพรวัลย์” จากการรายงานข่าวคลาดเคลื่อน พร้อมยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวไม่ตรงกับเป็นความจริง และเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในการนำเสนอข่าว
"พระมหาไพรวัลย์" ร่ำไห้กลางไลฟ์ ระบายความในใจ เตรียมสึก!
"พระมหาไพรวัลย์" ไลฟ์ต่อ ขออย่าเคลมพุทธศาสนา
หลังจากโพสต์ได้เพียงไม่นาน ล่าสุดทาง พระมหาไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความตอบกลับ ระบุว่า “ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไป ช่วยเกลียดอาตมาให้น้อยลงกว่านี้อีกสักนิดเถอะนะ นี่คือสิ่งเดียวที่อาตมาอยากได้พร้อมๆ กับคำขออภัยในครั้งนี้ อาจารย์พยอมเคยกล่าวว่า อย่าเกลียดกันเต็มที่ เอาไว้ดีกันวันหน้าบ้าง ธรรมชาติของความหลากหลาย ย่อมทำให้เราคิดเห็นต่างกัน แต่ความเห็นต่างกัน ไม่เท่ากับ ความเป็นศัตรู สังคมจะงาม เพราะเราแตกต่างหลากหลาย” พร้อมคอมเม้นต์ทิ้งท้ายว่า ผิดครั้งแรก ควรให้อภัย ผิดครั้งต่อไปคือจงใจ อาตมาฟ้องจริงนะ มีพี่ทนายหลายท่านอาสามา
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ของพระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง “2 พส.” ได้ร่วมออกงานคู่กันเป็นครั้งสุดท้ายที่เชียงใหม่ โดยเดินทางไปถ่ายทำรายการซึ่งเป็นกิจนิมนต์สุดท้ายของพระมหาไพรวัลย์ก่อนลาสิกขาบท โดยพระมหาไพรวัลย์งดให้สัมภาษณ์ แต่พระมหาปองได้ตอบทุกคำถามแทน
โดยพระมหาสมปอง กล่าวว่า พระมหาไพรวัลย์อาจลาสิกขาบทก่อนวันที่ 4 หรือ 5 ธันวาคมตามที่ได้แจ้งไว้ตอนแรก และไม่ได้เตรียมการอะไรมาก เพราะขั้นตอนลาสิกขาบทไม่ยุ่งยาก โดยงานนี้ถือเป็นงานคู่งานสุดท้ายที่จะได้ทำร่วมกันในฐานะพระสงฆ์
ส่วนกรณีที่มีบางสื่อเสนอข่าวว่า พระมหาไพรวัลย์ มีเงินเก็บกว่าร้อยล้าน พระมหาสมปอง บอกว่า เสี่ยงมากเสนอข่าวมั่วแบบนี้ ไม่เป็นความจริง ทุกวันนี้น้องยังขอเงินขวัญถุงจากอาตมาอยู่เลย โดยเรื่องนี้พร้อมให้ตรวจสอบบัญชีอยู่แล้ว จะได้เห็นว่าทุกวันนี้มีแต่หนี้สิน แต่หากตรวจสอบเราแล้วก็อยากให้ตรวจสอบผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองด้วย
"พระมหาไพรวัลย์"เปิดแชทนักข่าวโผล่ขอโทษ
“พระมหาสมปอง” เผยสาเหตุ “พระมหาไพรวัลย์” ลาสิกขา ปัดถูกแรงกดดัน
สำหรับประเด็นการขอโทษนั้น พระมหาสมปอง บอกว่า การมาขอโทษมันง่ายเกินไป เรื่องนี้มีทนายความหลายท่านและลูกแพจหลายคนแนะนำให้ฟ้องคดีและรับขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น เพราะการมาขอโทษแล้วจบเรื่องเหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง ยกโทษให้คราวนี้ เดี๋ยวคราวหน้าก็จะมาเขียนอีก ดังนั้นต้องเจอฟ้องจริงสักคดี–สองคดี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย
ส่วนเรื่องของความรู้สึก ตอนนี้พระมหาไพรวัลย์ได้ตกผลึกแล้วว่าเมื่อหวังดีปราถนาดี ยอมฮาราคีรีตัวเอง เสียสละตัวเองเพื่อความถูกต้อง แต่เมื่อความทุ่มเทสูญเปล่า และยังเห็นว่ามีหลายสถานภาพที่น่าจะไปทำอย่างท่านเคยบอกไว้ เช่น อาจเป็นนักวิชาการพุทธศาสนา เพราะคนรุ่นใหม่อย่างอาตมาชอบอะไรที่โปร่งใสชัดเจน
ส่วนแผนหลังจากลาสิกขาบทก็คือ การดูแลโยมแม่เป็นหลัก เพราะพระมหาไพรวัลย์เป็นลูกเพียงคนเดียวของครอบครัว พร้อมแอบเปรยว่า หลังจากนั้นอาจมีรายการคู่ “พระมหาสมปองกับน้องทิดไพรวัลย์” ตามมา
