เปิดรายงานคุณภาพอากาศโลกปี 64 กทม.ติดอันดับ 42 เมืองที่มีค่าฝุ่นสีแดง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เปิดรายงานคุณภาพอากาศโลกปี 64 ยก กทม. ติดอันดับ 42 ของโลก เมืองที่มี PM 2.5 สูงระดับสีแดง จับตาสุราษฎร์ธานีมลพิษเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา

“มลพิษทางอากาศ” ยังคงเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนมากที่สุด โดยมีประชากรโลกเสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าวกว่า 7 ล้านคนในทุก ๆ ปี

ล่าสุดทาง IQAir ได้รวบรวมและตีพิมพ์เผยแพร่ใน “รายงานคุณภาพอากาศโลก ปี 2564” หรือ “World Air Quality Report 2021” รายงานอันดับเมืองที่มีมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ทั่วโลกในช่วงปี  2564

โดยในปีนี้ ระดับมลพิษทางอากาศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา นับเป็นโชคร้ายของพลเมืองโลก ที่ไม่มีประเทศไหนผ่านมาตรฐานคุณภาพอากาศตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) สักแห่งเดียว

เช็ก 10 มาตรการ ครม. อนุมัติช่วยประชาชน ลดค่าก๊าซหุงต้ม-ค่าไฟ-น้ำมัน

ส่วนประเทศไทยนั้นติดอยู่อันดับที่ 45 จาก 117 ประเทศทั่วโลก และกรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่อันดับที่ 42 จาก 107 เมือง ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ในภาพรวมลดลงคิดเป็นอัตรา 5%

โดยในรายงานฉบับนี้ ระบุว่า กทม.มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ยลดลงจาก 20.6 g/m3 เป็น 20.0 g/m3 ในปี 2564 จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่สอง (สีส้ม ;  15.1-25 g/m3)  

เชียงใหม่ มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ยลดลงจาก 30.5 g/m3 เป็น 24.9 g/m3 ในปี 2564 จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่สอง (สีส้ม ;  15.1-25 g/m3)  

ขอนแก่น มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ยลดลงจาก 26.1 g/m3 เป็น 22.6 g/m3 ในปี 2564 จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่สอง (สีส้ม ;  15.1-25 g/m3)  

แม่ฮ่องสอน มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ยลดลงจาก 29.7 g/m3 เป็น 28.5 g/m3 ในปี 2564 จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่หนึ่ง (สีแดง ;  25.1-35 g/m3)  

นครราชสีมา มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ยลดลงจาก 21.6 g/m3 เป็น 20.3 g/m3 ในปี 2564 จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่สอง (สีส้ม ;  15.1-25 g/m3)  

นนทบุรี มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ยลดลงจาก 21.1 g/m3 เป็น 20.8 g/m3 ในปี 2564 จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่สอง (สีส้ม ;  15.1-25 g/m3)  

กทม. ชวนคนกรุง เแสดงพลังลดโลกร้อน ปิดไฟ 1 ชั่วโมง 26 มี.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีเมืองหรือจังหวัดใดของประเทศที่มีมาตรฐานคุณภาพอากาศตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (5 g/m 3)

สถานการณ์รายจังหวัดอื่น ๆ ที่น่าจับตามอง มีข้อมูลดังนี้

  • สุราษฎร์ธานี เป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่จัดอยู่ใน 10 อันดับที่มีประชากรสูงที่สุด ที่พบว่าความเข้มข้นของ PM 2.5 เพิ่มขึ้น 30 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
  • เชียงใหม่ และ ขอนแก่น มีความเข้มข้นของ PM 2.5 ลดลง 18% และ 13% ตามลำดับ ทำให้ระดับคุณภาพอากาศดีขึ้น จากระดับที่หนึ่ง (สีแดง ;  25.1-35 g/m3)  ไปเป็นระดับที่สอง (สีส้ม ; 15.1-25 g/m3)
  • เกาะกูด และ หนองคาย เป็นเพียง 2 พื้นที่ในประเทศไทยที่มีความเข้มข้นของ PM 2.5 เฉลี่ย 7.1 g/m3 และ 7.8 g/m3 ตามลำดับ จัดอยู่ในคุณภาพอากาศระดับที่สี่ (สีเขียว ; 5.1-10 g/m3)   

แหล่งที่มา-อุปสรรคในการแก้ปัญหา PM 2.5

สำหรับแหล่งที่มาของมลพิษ PM 2.5 ของประเทศนั้น ในรายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ต่างมาจากการปล่อยไอเสียรถยนต์, มลพิษทางอุตสาหกรรม, การเผาไหม้พืชผล รวมถึงการผลิตไฟฟ้า

ขณะที่อุปสรรคของการแก้ปัญหามลพิษ PM 2.5 มาจากการขาดการตรวจสอบคุณภาพอากาศ, การขาดความตระหนักเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากการเผาพืชผล และการขาดการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการเผาพืชผล

"ฟินแลนด์" ครองแชมป์สุขที่สุดในโลก 5 ปีติด "ไทยแลนด์" ร่วงที่ 61

ทั้งนี้ แม้การทำเกษตรกรรมและการเผาไหม้ทางการเกษตร เพื่อเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูกครั้งต่อไป จะเป็นเรื่องปกติสำหรับประเทศไทย แต่การเผานั้นสามารถเพิ่มความเข้มข้นของ PM 2.5 ได้ 2-3 เท่า ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้ประชาชนต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของประเทศมีความแปรปรวนด้วย

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

Arena 36

Arena 36

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ