คลิปเสียง "กาโตะ" อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช พัวพันกับสีการายหนึ่งชื่อ "ตอง" จนเป็นข่าวใหญ่โต ล่าสุด "อดีตพระกาโตะ" หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว กล่าวยอมรับกลางรายการโหนกระแส ว่าพาฝ่ายหญิงไปเที่ยวจริง แต่พลาดท่า เพราะอายุยังน้อย พร้อมแฉหลังจากนั้น ถูกฝ่ายหญิงเรียกเงินอีกหลายรอบ
"ยอมรับเพราะว่าเราพลาดจริง ๆ ด้วย 1. อายุเรายังน้อย แล้วก็ด้วยผู้หญิงอันนี้เราก็ต้องเรียนตรง ๆ ว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ด้วยผู้หญิงมันยั่ว มันเย้า มันยวนเรา...
"หลวงพี่ย้อย"ยุติให้ข้อมูลอดีต"พระกาโตะ" หลังลาสิกขาแล้ว
อ.อ๊อด เผย คลิปเสียงฉาว "พระกาโตะ" ไม่ได้ถูกตัดต่อ
หลวงพี่กาโตะ ยอมสึกแล้ว อ้างอ่อนพระธรรมวินัย เผยภาพแรกหลังเป็นฆราวาส
...แล้วทีนี้ก็อยากจะพูดว่า ตั้งแต่รอบแรกก็โดนบังคับขู่เอาเงินตลอด เพื่อที่จะไปในเรื่องต่อไป" อดีตพระกาโตะ กล่าว
อดีตพระกาโตะ ยังพูดอีกว่า เหมือนตนจะโดนแบล็คเมล์ เนื่องจากฝ่ายหญิงบอกว่ามีหนี้สิน และมีการขอเงินอีกหลายครั้ง ตอนแรกโอนไปให้ 1 แสนบาท คิดว่าจะจบแล้ว แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ พร้อมกับขอเงินซื้อโน๊ตบุ๊กอีก นอกจากนี้ยังขอเงินซื้อทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายครั้ง โดยอ้างว่าจะไปแจ้ง "หมอปลา" รวมทั้งหมดจึงโอนไปให้ประมาณ 3 แสนบาท แต่หลังจากนั้นตน ก็ไม่ได้โอนให้อีกเพราะ รู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว จนสุดท้ายรู้สึกอัดอั้น เพราะหลังจากสึกออกมามีเงินติดตัวเพียงแค่ 4,000 บาทเท่านั้น
“หลวงพี่กาโตะ” ไม่เอาเรื่อง สาวป่วยไบโพลาร์ กุเรื่องความสัมพันธ์ ยันเข้าใจอาการโรคนี้
ขณะที่ฝ่ายหญิง ยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการแบล็คเมล์ เพราะเป็นข้อเสนอที่เขาจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับยอมรับผิดทุกอย่าง ยอมรับว่าผิดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย และขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน
ตอง ยังเล่าอีกด้วยว่า สาเหตุที่นำไปสู่การมีสัมพันธ์บนรถนั้น เกิดจากที่อดีตพระกาโตะ ทักไลน์มาพูดคุยว่า รู้สึกปวดเมื่อยเอวมากจากการไปนั่งเทศน์เป็นเวลานาน ๆ พร้อมกับออกอุบายว่า อยากให้มีคนมานวด ตนจึงถามต่อไปว่า หากหมอนวดผู้หญิง (หมายถึงคนอื่น) มานวดแบบนี้จะบาปไหม อดีตพระกาโตะบอกว่า ไม่บาป เพราะเรามีเจตนาดี เพื่อที่จะช่วยพระให้หายจากการปวดเมื่อย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่อดีตพระกาโตะ ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินให้กับนักข่าวที่รีดเงิน 3 แสนบาท เพื่อแลกกับการไม่นำเสนอประเด็นอื้อฉาวดังกล่าวอีกด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ ซึ่งประเด็นนี้ "หมอปล"า ให้สัมภาษณ์หลังจบรายการ ยอมรับว่า มีนักข่าวท้องถิ่นได้เรียกเอาเงินไปจริงเพื่อช่วยปิดข่าว